[สรุป] คอร์ส Google Digital Marketing ตอนที่ 2: Attract and Engage Customers with Digital Marketing

Nut P
4 min readMar 16, 2023

มาพบกับตอนที่ 2 ของคอร์ส Google Digital Marketing & E-commerce Professional Certificate ก็ตอนนี้ก็ส่วนใหญ่จะเป็นการเรียนเรื่องของ SEO & SEM หรือที่เราเรียกกันว่าคือการทำ Digital Marketing บน Search Engine ก็เป็นเรื่องที่เหมือนหัวใจหลักของ Digital Marketing เลย เนื้อหาก็อัดแน่น ส่วนที่ผมสรุปมาก็จะเป็นแค่บางส่วนผมเห็นว่าสำคัญๆ ก็ลองไปดูกันได้ฮะ

ส่วนที่ถ้าใครอยากอ่านตอนที่แล้วก็ตามลิงก์ได้เลยฮะ

“นึกถึง Search Engine นึกถึง SEO & SEM”

Week 1

Introduction to attract and engage customers with digital marketing

อาทิตย์นี้ก็มาพูดถึงเรื่อง Persona และกลยุทธ์ Marketing Funnel ที่ลึกขึ้นจากตอนที่แล้ว เริ่มจาก Persona ที่ก่อนเราเริ่มทำ Digital Marketing เราควรรู้จักลูกค้าเราก่อน โดย Persona เป็นตัวแทนลูกค้านั้น ก็ส่วนประกอบ Persona ที่เราตอบได้ควรมีดังนี้

  • Who: ลูกค้าคือใคร
  • Goal: เขาต้องการอะไร
  • Barrier: อะไรเป็นอุปสรรคที่ทำให้ไม่ได้ตาม Goal

ต่อไปก็ Marketing Funnel ก็อย่าเพิ่งลืมไปกันนะครับจากตอนที่แล้วว่ามีอะไรบ้าง

Awareness Strategy

  • Search Engine Optimization (SEO)
  • Search engine marketing (SEM)
  • Display Ads
  • Social media marketing
  • Social media advertising
  • Video Marketing
  • Influencer marketing
  • Content Marketing

Consideration Strategy

  • ทำให้มี Unique Selling Proposition บอกว่าสินค้าเราดีกว่าคู่แข่งเราอย่างไร
  • Testimonials รีวิวลูกค้าเก้าว่าสินค้าดี
  • Case Studies บอกเล่าเรื่องราวลูกค้าเก่า
  • Remarketing Ads ทำ Ads กลับหลังจากเข้ามาเว็บเรา หรือสนใจสินค้าจากที่อื่น
  • Webinars ทำประชุมออนไลน์โปรโมตสินค้า
  • Email Marketing
  • Social Media Marketing

Conversion Strategy >> eCommerce Conversion rate ปกติ คือ 1–2%

  • ทำให้ Check out process ตอนจะซื้อมันง่าย >> Field กับ Page ที่เพิ่มขึ้นมาทุกอัน มีผลต่อการลด Conversion Rate
  • รูปสินค้าสวยๆ
  • มีคำอธิบายสินค้าเขียนน่าชวนซื้อ
  • มี Live Chat
  • เตือนว่ามีสินค้าที่ไว้ในตะกร้าค้างไว้ของลูกค้า
  • เพิ่มความเร็ว Web >> ทุก 1 วิที่โหลดช้า Conversion rate ลดลง 20%
  • ให้ทดลองใช้ หรือรัปประกันเงินคืน
  • ทดสอบ AB testing

Loyalty Strategy >> มันคือ Free marketing

  • Reward Program
  • Email Marketing
  • การแชร์บอกต่อ
  • การ Remarketing
  • การให้คนรีวิวสินค้าหลังขาย
  • Offer วันเกิด หรือโอกาสพิเศษ
  • Freebie ให้ของที่มีโลโก้แบรนด์ เช่น เสื้อ, สติกเกอร์
  • ใช้คำที่ให้ลูกค้ารุ้สึกตื่นเต้นหลังจากซื้อสินค้ามากกว่าคำเป็นทางการ

Week 2

Understand search engine optimization (SEO)

SEO = การทำให้ Content ของเว็บติด Rank ของ Search Engine เช่น Google

ก่อนการทำ SEO ก็คือเหมือนเรื่องอื่นเลย เราต้องรู้ว่าลูกค้าคือใคร เป้าหมายของการทำ SEO คืออะไร โดยคอนเซปต์พื้นฐาน SEO ที่เราควรรู้นะครับ

วิธีจับของ Search Engine

  • Crawling: กระบวนการดูข้อมูลที่อัปเดตของเว็บ
  • Indexing: หลังจาก Crawl ตัว Search ก็จะเอา URL เว็บ และ Content ไปเก็บเป็น Index
  • Serving: Algorithm จัดอันดับบน Search Engine ทำงาน

ปัจจัยการขึ้นอันดับ SEO

  • Query คำที่ใช้ค้นหา
  • ความสัมพันธ์คำที่ใช้ค้นหากับ Keyword ของเว็บ
  • คุณภาพของ Content ที่สัมพันธ์กับคำที่ใช้ค้นหา
  • UX ของเว็บที่ใช้งานง่าย
  • พวก Context & Setting เช่น สถานที่ Search, ประวัติการ Search

SERPs Features

  • Feature Snippet: ตัวที่ขึ้นปกติ
  • Rich Result: ตัวที่ขึ้นแปลกๆจากเว็บแบบพิเศษ เช่น รีวิวมีดาว
  • Image รูป
  • Video
  • Local Result: พวก Map หรือของที่ขายอยู่ไกล้ๆตัว

Bounce rate = % ที่คนดูเว็บ 1 หน้าแล้วออกจากเว็บ

การจัดโครงสร้าง Website ให้รองรับ SEO

  • ทำโครงสร้างแต่ละหน้าเว็บให้เป็น Hierarchy ให้ทุกหน้าเชื่อมกันเป็นลำดับได้หมด และควรเป็น Flat ให้มากที่สุด เช่น Home Page >> Category >> Sub-category >> Product
  • ทำ Breadcrumbs
  • ทำ URLs ให้อ่านได้ สั้นที่สุดที่เป็นไปได้ และอัปเดตลิงก์ที่ไม่ใช้ออก
  • ทำ 404 pages

Week 3

Apply search engine optimization (SEO)

การใช้ Image ในเว็บให้รองรับ SEO

  • ใช้รูปให้สอดคล้อง Content และรองรับการแสดงผลทุก Device
  • ทำชื่อไฟล์รูปให้อ่านได้มีความหมาย และไม่ Spam คำ
  • ใส่ชื่อ Alt Text ที่อ่านได้ในรูปด้วย
  • ใช้ PageSpeed Insights วัด

คำแนะนำ SEO อื่นๆ

  • ใส่ Page Title ทุกหน้า และชื่อควร Uniqie และสั้นๆได้ใจความ
  • ใส่ Meta description ทุกหน้าถ้าเป็นไปได้, ทำเนื้อหาให้ตรงกับ Content, ควรเป็น Unique ของแต่ละหน้า
  • ใช้ Google Rich Results Test เช็ก Schema ของ Rich Result หน้าที่ต้องการได้
  • ใช้ Google Search Console Tools เช็ก Performance เว็บใน Google Search
  • ควรส่ง Sitemap ของเว็บใน Google Search Console ด้วย
  • ของ Bing ใช้ Bing Webmaster Tools เช็ก Performance เว็บ Bing Serch
  • ใช้ Backlink เป็นลิงค์ที่ชี้กลับมาที่เว็บไซต์ของเราจากเว็บไซต์อื่นๆ ช่วยเรื่อง SEO ได้

Week 4

Search engine marketing (SEM) and display advertising

SEM = การจ่ายเงินเพื่อให้ขึ้น Ads บน Search Engine เช่น Google

Google Display Network = การลง Ads ตามเว็บต่างๆ เช่น Banner, Video

TrueView Video Ads = Ads บน Youtube

Pay-Per-Click (PPC) Advertising = Ads Model จ่ายเมื่อมีคนคลิก

ประเภท Ads

  • Text Ads
  • Shopping Ads
  • Local Service Ads
  • Google Ads Map
  • Call Ads (ขึ้นเฉพาะ Mobile)

ตัวอย่างประเภท Ads Extension

  • Sitelink Extension (ลิงก์เว็บ)
  • Call Extension (โทร)
  • Location Extension (ตำแหน่งแผนที่)
  • Price Extension
  • Snipper Extension (ข้อมูล Product ย่อย)

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับการขึ้น Ads

  • ราคา Bid ที่ตั้ง
  • Quality ของ Ads และ Content ของหน้าที่เกี่ยวข้อง
  • Ad Extensions ที่สอดคล้องกับ Content

คำแนะนำอื่นๆ

  • อย่าใช้ศัพท์ Sales ที่ Generic เกินไป เช่น Sign up today สมัครเลยวันนี้ เปลี่ยนให้คำ Specific มากขึ้น เช่น Sign up your dream job.
  • การทำ Responsive display ads ควรอัปโหลดอย่างน้อย 5 headlines, 5 images และ 5 descriptions.

สรุปส่งท้าย

ก็ทั้งหมดเป็นแค่ Intro ของ SEO & SEM ที่เหลือก็คือการนำความรู้พื้นฐานเหล่านี้ลองไปใช้จริง เพราะ ผมเชื่อว่าเรื่อง SEO & SEM ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของ Trial & Error ล้วนๆ ยิ่งทำเยอะยิ่งเก่ง เป็นกำลังให้เพื่อนๆที่อยากทำสายนี้ครับ ตอนต่อไปก็จะเป็นเรื่อง Social media ใครสนใจก็ไปต่อโลดๆ

--

--

Nut P
Nut P

Written by Nut P

มาคุยกันได้ครับ สนใจด้าน Tech & Business fb.com/inut.panpp

No responses yet