[สรุป] หนังสือ ความสัมพันธ์ที่ดีต้องมีการเซ้าซี้ Good relationship — เก๋อจื่อซัน

Nut P
3 min readJul 30, 2023

เป็นการอ่านหนังสืออีกครั้งที่หลังจากไม่ได้อ่านมานาน ก็เลยจะมาขออนุญาต สรุป และ รีวิว หนังสือฮะ รอบนี้ก็จะเป็นการ Review เรื่องของการสร้าง Relationship ในสังคม ทั้งเรื่องเพื่อน คู่ครอง การงาน ได้หมดครับ ก็อันนี้บอกตามตรง ผมไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามคนเขียนเลยครับ แต่คิดว่าเป็นคนจีน Culture ก็น่าจะพอเอาไปใช้กับไทยเราได้มากกว่าหนังสือแนวตะวันตกครับ ก็ลองดูกัน ก็หวังว่าจะบทความนี้เป็นตัวช่วยในการเลือกของเพื่อนๆว่าจะลองซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านไม่มากก็น้อยนะฮะ😊

“หนังสือช่วยพัฒนาสกิลการสร้าง Relationship ที่จะช่วยเปลี่ยนแนวคิด กับคำว่า รบกวน ให้เป็นสกิลอันทรงพลัง”

เนื้อหาประมาณไหน

ก็เป็นหนังสือสไตล์ How to ตามชื่อ ใช้เพื่อให้คนอ่านสามารถนำเอาวิธีในหนังสือไปประยุกต์ใช้สร้าง Relationship กับคนรอบตัวได้ง่ายขึ้น โดยหนังสือเล่มนี้เรียกว่าเน้น หรือบอกได้เลยว่าทั้งเล่ม จะใช้วิธีการในคำว่า “การรบกวน” หรือ “ขอความช่วยเหลือ” เป็นเคล็ดลับในการสร้าง Relationship กับผู้อื่น ก็ไม่ต้องแปลกใจที่เพื่อนๆจะได้เห็น Wording นี้อยู่เต็มตลอดการอ่าน ซึ่งพออ่านจบคำนี้มันก็จะไปฝังอยู่ในหัวเพื่อนแน่นอน

เหมาะกับใคร

เหมาะมากกับคนที่เป็นคนขี้อาย ขี้เกรงใจ และคิดว่าในชีวิตมีปัญหากับการสร้าง Relationship ยาวๆกับคนรอบข้าง ก็หนังสือเล่มนี้ก็จะทำให้เพื่อนๆเห็นในอีกแง่มุมนึงว่าการเกรงใจและการทำอะไรทุกอย่างด้วยตัวเองมันอาจเป็นการทำร้ายความสัมพันธ์กับผู้อื่นมากกว่าที่คิด ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็จะทำให้เพื่อนๆกล้ารบกวนและสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อคนรอบข้างมากขึ้น ส่วนตัวคิดว่าบริบทการนำไปใช้ของหนังสือเล่มนี้ ผู้หญิงเหมาะกว่าผู้ชาย เพราะ บางสถานการณ์ ผู้ชายเอาไปใช้ดูไม่เหมาะสักเท่าไร แต่เดี๋ยวอันนี้ผมต้องคงไปพิสูจน์ก่อนครับ อาจเป็นผม Bias เองก็ได้ 55

สไตล์การเขียน

ก็ออกแนวสไตล์การเขียนดูไม่ได้เป็นคนเก่าแก่เท่าไร ดูแล้วคนเขียนก็ยังคงเป็นคนวัยทำงานในโลกเราสมัยนี้ ก็สิ่งที่ผู้เขียนยกตัวเคสตัวอย่างมัก base on ประสบการณ์ของผู้เขียนเองที่ออกแนวเป็นคนจีน และมีการยกตัวอย่างจากหนัง และเหตุการณ์ของคนอื่นบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คืออยู่ในจีน ไม่ค่อยมียกตัวอย่างจากฝั่งตะวันตก ก็ถือว่าดี เพราะ ผมเชื่อว่า Culture จีนมันไกล้เคียงไทยเรามากกว่าฝั่งตะวันตก

สรุปเนื้อหาแบบกระทัดรัด

  1. “การรบกวน” ผู้อื่นเป็นการสร้างความสัมพันธ์ การที่คิดว่าตัวเองจะไปรบกวนผู้อื่น เป็นการยอมรับว่าตัวเองไม่ต้องการอีกฝ่าย และเป็นการปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง
  2. การรบกวนคนอื่นคือการยอมรับในความสามารถของอีกฝ่าย
  3. “การรบกวน” เป็นปฏิสัมพันธ์ในความสัมพันธ์ ขอแค่ “รบกวน” อย่างเหมาะสม ปฏิสัมพันธ์ดังกล่าวย่อมเป็นเรื่องดี
  4. ขอให้เชื่อว่าคนที่รักคุณจะไม่มีวันรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่รบกวน การรบกวนคือการแสดงความรัก
  5. รบกวนไม่หรือไม่รบกวน ไม่ใช่สิ่งที่ออกจากปากเรา ต้องออกจากปากคนอื่นถึงจะถูก นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จงอย่าคิดแทนคนอื่น จงมอบสิทธิ์ในการคิดและตัดสินใจให้อีกฝ่าย
  6. การมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ต้องทั้งแข้มแข็ง และอนุญาตให้ตนเองพึ่งพาคนอื่นด้วย
  7. การเปิดปากขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอาย หากพบปัญหาแก้ไขไม่ได้ การรีบขอความช่วยเหลือคือวิธีอันชาญฉลาดที่ส่งผลดีให้ทั้งเขาทั้งเรา
  8. การปฏิเสธกับการถูกปฏิเสธเป็นเรื่องปกติทั่วไปของคนเรา ทุกวันเราล้วนมีชีวิตอยู่การปฏิเสธและถูกปฏิเสธตลอดเวลา
  9. อีกหนึ่งวิธีที่อยากเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี แต่ไม่รู้หาหัวข้อคุยอะไร ให้ใช้วิธีขอความช่วยเหลือคนอื่น
  10. วิธีที่ดีสุดในการลดระยะห่างกันคือการให้คนอื่นมาช่วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือความสัมพันธ์แบบ win win
  11. ลองสังเกตคนที่เราสนิท มักเป็นคนที่เราไปหาคนนั้นก่อน ไปขอความช่วยเหลือรบกวนเขา แม้แต่เวลาโกรธ เราก็จะระบายกับคนที่สนิทที่สุดเช่นกัน
  12. เราไม่เคยชอบใครมากขึ้นกว่าเดิมเพียงเพราะใครคนนั้นเอาใจใส่เรามากกว่า แต่เราจะชอบใครมากกว่าเดิมเพราะว่าใครคนนั้นต้องการเรามากกว่า
  13. “เป็นที่ต้องการ” คือการยอมรับความสามารถของคนหนึ่งที่สุด ขอเพียงแค่มีคนแย่งตัวเขา ดึงตัวเขา ขอความช่วยเหลือเขา จะรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ ยังเป็นคนมีไฟ มีค่ามีประโยชน์
  14. เวลาที่คุณรบกวนคนอื่นมีแต่จะทำให้อีกฝ่ายดีใจจะแย่ แล้วอย่างนี้จะเกลียดคุณได้ลงอย่างไร
  15. การเก็บกดอารมณ์ตัวเองไว้นานเกินไป ไม่เพียงจะกลายเป็นภาระทางจิตใจของตัวเอง ยังทำให้ความสามารถในการบรรยายความรู้สึกตัวเองลดลงด้วย เกิดเป็นอุปสรรครุนแรงในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น สุดท้ายส่งผลความสัมพันธ์ระหว่างกัน
  16. การรบกวนคนอื่นคือการแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันวิธีหนึ่ง ขอแค่รบกวนคนอื่น จึงมีความเป็นไปได้ที่คนอื่นจะมารบกวนคุณ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณก็จะยิ่งแน่นแฟ้นและยิ่งรู้สึกลึกซึ่งขึ้นด้วย
  17. ไม่ว่าคนอื่นจะตอบรับให้ความช่วยเหลือหรือไม่ ผลลัพธ์การช่วยเหลือจะออกมาดีหรือไม่ดี อย่าลืมกล่าว “ขอบคุณ”
  18. หากเราเป็นฝ่ายเปิดปากขอความช่วยเหลือ เช่นนี้การช่วยเหลือให้ความร่วมมือต่อความหวังดีของผู้อื่นคือภาระหน้าที่ที่เราควรทำอย่างเต็มที่ แม้ปัจจุบันเขาอาจไม่ต้องการแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยต้องกล่าว “ขอบคุณ” หรือ “ขอโทษ” เขา
  19. จำไว่ให้ดีว่ามิตรภาพที่ดีไม่เคยเป็นวันเวย์ จะต้องเป็นปฏิสัมพันธ์แบบทูเวย์ที่ “ฉันรบกวนเธอ เธอก็รบกวนฉันได้”
  20. เรื่องที่รับปากคนอื่นแล้วก็จะต้องทำตามให้เสร็จตามที่รับปากไว้

ข้อความโดนใจที่คัดมาในเล่ม

Part 1 : ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดคือ ต่างฝ่ายต้องการซึ่งกันและกัน

  • หลายคนกลัวเป็นการรบกวนคนอื่น แต่หากไม่รบกวนกันและกันก็ยากที่จะสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาได้ คนที่มีความคิดกลัวเป็นการรบกวนคนอื่น ยากที่จะส่งความปรารถนาในการสร้างความสัมพันธ์ออกไป ฉะนั้นจึงต้องให้กลับไปอยู่มุมอันโดดเดี่ยวตามลำพังต่อไป
  • ความคิดที่ว่ากลัวว่าเป็นการรบกวนผู้อื่น ความจริงคือการเต็มใจไม่ยอมรับว่าตัวเองต้องการอีกฝ่าย และยังตัดรอนความต้องการอีกฝ่ายอย่าสิ้นเชิง
  • เราล้วนต้องการให้ตัวเองเป็นที่ตัองการ การที่ใครคนหนึ่งแสดงการพึ่งพาตัวเองมากเกินไป ฉันทีชีวิตตามลำพังได้ดี เป็นการทำลายความสัมพันธ์
  • การวางตัวเหมาะสมเป็นความหมายเดียวกับคำว่าเย็นชา การวางตัวเหมาะสมจะเป็นภาระหนัก และความรู้สึกผิดในใจลึกของคนไกล้ชิด
  • เมื่อก่อนภรรยาพึ่งพาแฟนทุกอย่าง มีความสัมพันธ์ไกล้ชิด แต่เมื่อภรรยาไม่พึ่งเขา ทำอะไรเองทุกอย่าง ความสัมพันธ์ไกล้ชิดก็หายไป
  • การมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ต้องทั้งแข้มแข็ง และอนุญาตให้ตนเองพึ่งพาคนอื่นด้วย
  • การรบกวนเพื่อนไม่ใช่ความผิด แต่การไม่ติดต่อเพื่อนต่างหากที่จะเป็นหนามแหลมทิ่มใจเพื่อน
  • การที่เรารักใครคนหนึ่ง เราไม่สามารถเก็บความรักนั้นไว้แค่เพียงในใจเท่านั้น แต่เราต้องแสดงมันออกมาอย่างเหมาะสม
  • ขอให้เชื่อว่าคนที่รักคุณจะไม่มีวันรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่รบกวน การรบกวนคือการแสดงความรัก
  • รักต้องการแสดงออก การรบกวนคือรูปแบบการแสดงออก เมื่อเรารักใครสักคนอย่างจริงใจ เราจะคิดไปขอความช่วยเหลือจากเขาเมื่อเรามีปัญหา แต่หากเราไม่ได้รักใครคนนั้น เราก็จะไร้คำพูด ปิดปากเดินจากไปอย่างเงียบๆ

Part 2: เราอาศัยการรบกวนซึ่งกันและกันให้ไกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

  • ในเวลาขาดทรัพยากร การเอ๋ยปากขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น นั่นคือทางลัดสู่ความสำเร็จ
  • จุดต่ำที่สุดของแผ่นดินคือทะเล คนที่ต่ำสุดคือผู้ยิ่งใหญ่ คนที่รู้จักแสดงความอ่อนโยนต่างหากที่เป็นผู้มี่แข็งแกร่งที่แท้จริง
  • คนที่ยืนอยู่สูงสุดจะไม่มีทางสร้างความสัมพันธ์ไกล้ชิดกับผู้อื่นได้ เพราะ เขาแข็งแกร่งเกินไป มั่นคงเกินไป ใครเข้าไกล้อาจโดนหนามทิ่มแทง
  • มีหน้ามีตาไม่ใช่สิ่งสำคัญสักเท่าไร ที่สำคัญคือการแก้ปัญหา
  • “การรบกวน” ของคุณอาจบังเอิญเป็นปฏิสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายต้องการเวลานั้นพอดี
  • ในทางจิตวิทยา คุณปฏิบัติตัวอย่างไร คนอื่นก็จะปฏิบัติต่อตัวคุณอย่างนั้น ดังนั้นหากคุณรู้สึกตัวเองด้อยค่า ไม่คู่ควรให้คนอื่นยื่นมือมาช่วยเหลือ นานวันเข้าคนอื่นก็จะไม่มีคุณอยู่ในสายตา จงอย่าเปิดโอกาสให้เช่นนั้นกับผู้อื่น คุณสมควรได้รับการปฏิบัติอย่างอ่อนโยนจากโลกใบนี้
  • รบกวนไม่หรือไม่รบกวน ไม่ใช่สิ่งที่ออกจากปากเรา ต้องออกจากปากคนอื่นถึงจะถูก นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จงอย่าคิดแทนคนอื่น จงมอบสิทธิ์ในการคิดและตัดสินใจให้อีกฝ่าย
  • ผู้ชายยินดีที่จะซื้อน้ำตาล เสื้อผ้า เครื่องสำอางมอบให้ผู้หญิง แต่จะให้พวกหล่อนหยิบยืม โดยไม่ซื้อมอบให้หากเป็นหนังสือ ผู้หญิงเองก็ไม่อยากได้หนังสือเช่นกัน เพราะอะไร นั้นเพราะหากมีการยืมก็ต้องมีการคืน หนังสือเล่นหนึ่งถูกใช้เป็นข้ออ้างในการติดต่อถึงสองครั้ง
  • การเปิดปากขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอาย หากพบปัญหาแก้ไขไม่ได้ การรีบขอความช่วยเหลือคือวิธีอันชาญฉลาดที่ส่งผลดีให้ทั้งเขาทั้งเรา
  • คนเรามักเป็นอย่างนี้แหละ ชอบคิดในแง่ลบไปก่อน เรื่องหนึ่งยังไม่ทันได้ทดลองก็เดาไปก่อนแล้วว่าจะต้องแพ้ไม่เป็นท่า แท้จริงเวลาที่เราเรื่องอะไรก็ตาม เราต้องทดลองก่อนถึงจะรู้ผล
  • อยากรู้รสชาติของลูกแพร คุณก็ต้องชิมมัน
  • ความจริงคนที่ปฏิเสธไม่เป็นมักจะจะยอมรับคำปฏิเสธของคนอื่นได้ยากเช่นกัน
  • การปฏิเสธกับการถูกปฏิเสธเป็นเรื่องปกติทั้วไปของคนเรา ทุกวันเราล้วนมีชีวิตอยู่การปฏิเสธและถูกปฏิเสธตลอดเวลา
  • เขาเหล่านั้นไม่อยากให้ตัวเองดูเป็นคนเห็นแก่ตัว เพื่อไม่ให้คนอื่นเกลียด ความเห็นแก่ตัวของตัวเองจึงได้แต่กดความต้องการของตัวเองไว้ภายในใจ บังคับตัวเองเป็นคนที่ไม่ต้องการ ไม่ปรารถนาสิ่งใดๆ
  • ความเก็บกดมักจะต้องมีหนทางระบายออกอยู่เสมอ
  • ไม่ว่าคุณคิดอยากได้อะไร จะต้องบอกออกมาเสียงดังๆ และแสดงท่าทีชัดเจนต่อสู้ให้ได้มันมา หากรู้สึกไม่เหมาะที่จะบอกความต้องการของตัวเองออกไป สุดท้ายจะไม่ได้อะไรสักอย่าง

Part 3: ความหมายอย่างหนึ่งของการมีชีวิตอยู่ เรียกกันว่า “เป็นที่ต้องการของคนอื่น”

  • หากการรบกวนคนอื่นเป็น “เรื่องแย่” ล้วนๆ แล้วทำไมเพื่อนหลายคนชอบพูดว่า “มีเรื่องอะไรก็มาหาฉันได้เสมอ” เพราะ สายตาเพื่อนไม่ได้มองว่าเป็นการรบกวน นี่คือการแลกเปลี่ยนความรู้สึกอย่างหนึ่ง และเป็นการพรวนดินในปุ๋ยความสัมพันธ์ระหว่างกันให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
  • ทุกคนมองว่าเขาเป็นคนเก่ง แต่ตัวเขาเองกลับไม่มีความสุข เพราะ เขาไม่มีเพื่อนรู้ใจสักคนเดียว ตอนเบื่อๆก็เปิดแชทขึ้นดูรายชื่อเพื่อน แต่กลับไม่รู้ว่าจะหาใครคุยด้วยดี
  • เราต่างปรารถนาการมีสังคม
  • ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะรบกวนคนอื่น เพราะในหลายๆครั้งการรบกวนคนอื่นก็คือการแลกเปลี่ยนสื่อสารทางอารมณ์ความรู้สึกที่หายาก
  • มีครั้งหนึ่งที่ถามคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก ว่าแต่ละครั้งเธอหาหัวข้อไปคุยอะไรกับคนอื่นน่ะ คำตอบง่ายมากคือ ก็คือขอความช่วยเหลือคนอื่น
  • หากผู้หญิงคนหนึ่ง ชอบหาเรื่องคุยกับคุณ โทรคุยทุกคืน นั่นแสดงว่าเจ้าหล่อนติดคุณมากจริงๆ ผู้หญิงทุกคนล้วนขาดความปลอดภัยอย่างมาก
  • ผู้หญิงคนไหนปากยิ่งไม่ตรงกับใจมากเท่าไร ในใจก็ยิ่งแคร์คุณมากเท่านั้น
  • เธอชอบใคร เธอสนิทกับใคร เธอถึงได้ไปรบกวนคนนั้น
  • แต่ก่อนเธอสามารถลงมือเปิดห่อพัสดุเองได้ แต่เดี๋ยวนี้แค่เปิดขวดน้ำเธอยังเปิดเองไม่ออก เธอเสแสร้งต่อหน้าคนที่เธอชอบเท่านั้น
  • ใครที่สนิทกับคุณหน่อย ใครที่รู้สึกลึกซึ้งกับคุณหน่อย คุณก็จะไปหาคนนั้นก่อน ไปขอความช่วยเหลือรบกวนเขา แม้แต่เวลาโกรธ เราก็จะระบายกับคนที่สนิทที่สุดเช่นกัน
  • ต่อหน้าคนแปลกหน้ามีแต่คำว่ากฎระเบียบ ถ้าอยากรู้ว่าความสัมพันธ์คนนั้นดีหรือไม่ดี ให้ดูว่าเขาสองคนกล้าโมโหใส่กันหรือเปล่า
  • หากคุณกล้าโมโหใส่คนหนึ่ง กว่าครึ่งเป็นเพราะคุณชอบเขา คุณสนิทชิดเชื้อกับเขา คุณรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยต่อหน้าเขา คุณไม่ต้องกังวลว่าเขาจะไปจากคุณ
  • สำหรับหลายคนแล้ว การถูกคนอื่นใช้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ที่น่ากลัวคือไม่คู่ควรกับการถูกใช้งาน เพราะ การรบกวนคนอื่นคือการยอมรับในความสามารถของเขา
  • เราไม่เคยชอบใครมากขึ้นกว่าเดิมเพียงเพราะใครคนนั้นเอาใจใส่เรามากกว่า แต่เราจะชอบใครมากกว่าเดิมเพราะว่าใครคนนั้นต้องการเรามากกว่า
  • “เป็นที่ต้องการ” คือการยอมรับความสามารถของคนหนึ่งที่สุด ขอเพียงแค่มีคนแย่งตัวเขา ดึงตัวเขา ขอความช่วยเหลือเขา จะรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ ยังเป็นคนมีไฟ มีค่ามีประโยชน์
  • วิธีที่ดีสุดในการลดระยะห่างกันคือการให้คนอื่นมาช่วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือความสัมพันธ์แบบ win win
  • เวลาที่คุณรบกวนคนอื่นมีแต่จะทำให้อีกฝ่ายดีใจจะแย่ แล้วอย่างนี้จะเกลียดคุณได้ลงอย่างไร
  • ผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเอง มีปัญหาอะไรก็หาทางแก้ไขเอง ไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้ชาย มักจะไม่มีใครตามจีบ แต่ผู้หญิงที่ดูบอบบาง ไม่ว่าจะลงมือทำอะไรก็ต้องไหว้วานเพื่อนผู้ชายช่วยมักเป็นดาวคณะ คนตามจีบเป็นพรวน
  • คนที่เคยให้ความช่วยเหลือคุณครั้งหนึ่งที่ยินดีที่จะช่วยคุณในครั้งต่อๆไปมากยิ่งกว่าที่คุณเคยให้ความช่วยเหลือเสียอีก
  • ในหลายๆครั้งที่คุณรบกวนคนอื่น คนอื่นอาจไม่พอใจเสมอไป แต่กลับกัน หลังจากที่คนอื่นให้ความช่วยเหลือคุณแล้วอาจเกิดให้ความรู้สึกพึงพอใจอย่างมากภายในใจ ต่อมาแววตาที่มองคุณจะเปลี่ยนไป
  • ฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คนอื่นชอบคุณไม่ใช่ไปช่วยเหลือพวกเขา แต่ไปขอให้เขาช่วยเหลือคุณต่างหาก
  • เช่นเดียวกับการทุ่มเทความรัก ยิ่งทุ่มเทมาก ความรู้สึกที่คุณทุ่มเทให้อีกฝ่ายก็จะยิ่งลึกซึ้ง ฉะนั้นหากอยากให้ใครชอบเรา ลองเอ่ยปากรบกวนเขาสิ ให้เขาช่วยเหลือ ให้เขาทุ่มเทให้คุณมากหน่อย นานวันเขาก็จะยิ่งชอบคุณ ยิ่งรักในความสัมพันธ์ระหว่างคุณสองคน
  • เราต่างเรียงลำดับผิดไป กล่าวคือ ไม่ใช่หาเพื่อนรู้ใจก่อน ค่อยพูดเรื่องในใจให้ฟัง แต่เราต้องอาศัยการสื่อสารไปมาแต่ละครั้งๆเพื่อให้เราหาเพื่อนรู้ใจพบต่างหาก
  • คุณไม่เคยเปิดใจดับคนอื่นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนเข้ามานั่งในใจคุณ
  • ความในใจที่ซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในความสัมพันธ์ดีๆที่มีให้กัน เพราะมันจะช่วยปลดปล่อยความตรงไปตรงมาของคุณ เพื่อให้คนอื่นเกิดความปลอดภัยในความสัมพันธ์ที่มีกับคุณ
  • การระบายความในใจให้เพื่อนๆกังไม่ใช่เรื่องไม่เหมาะสม หากเพื่อนปฏิเสธเราก็เงียบซะ
  • คนบางคนสามารถพูดจาเฮฮาได้ทุกเรื่องบนโต๊ะอาหาร แต่กลับไม่มีเพื่อนรู้ใจที่สามารถระบายเรื่องใจให้ฟังได้เลยสักคนเดียว
  • ในชีวิตจริงฉันสัมผัสกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าหลายคน คนเหล่านี้ส่วนมากจะใส่หน้ากากที่หนามาก แม้ในใจมีความทุกข์สะสมมากมาย แต่ก็ไม่ยินดีที่จะเล่าให้คนอื่นฟัง
  • เมื่อคนอื่นช่วยเหลือคุณ ตัวเขาเองก็จะได้รับความสุขและความพึงพอใจกลับคืนมาใจระเดียวกันเช่นกัน
  • การหวาดกลัวการยอมรับความล้มเหลว การที่คนอื่นรู้เป็นคนอ่อนแอ เป็นสาเหตุหลักข้อหนึ่งที่ปฏิเสธการยอมรับความเห็นอกเห็นใจ
  • ชีวิตคนเราไม่มีใครที่จะใช้ชีวิตราบรื่นไม่เจออุปสรรคใดๆฉะนั้นทุกคนล้วนต้องการความช่วยเหลือ
  • การเก็บกดอารมณ์ตัวเองไว้นานเกินไป ไม่เพียงจะกลายเป็นภาระทางจิตใจของตัวเอง ยังทำให้ความสามารถในการบรรยายความรู้สึกตัวเองลดลงด้วย เกิดเป็นอุปสรรครุนแรงในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น สุดท้ายส่งผลความสัมพันธ์ระหว่างกัน
  • จงทำให้ตนเองกลายเป็นคนที่ธรรมดามีเลือดเนื้อ ตระหนักถึงข้อบกพร่องตนเอง ยอมรับอุปสรรคและความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิต
  • การยอมรับความเห็นอกเห็นใจ ไม่ใช่พฤติกรรมที่มำให้ตัวเองต่ำต้อย มันไม่เพียงช่วยเพิ่มคุณค่าของตัวเรา ยังช่วยให้คนอื่นรับรู้ถึงคุณค่าในตัวพวกเขาผ่านตัวคุณได้อีกด้วย
  • ความสัมพันธ์ต้องมีการไปมาหาสู่กัน คุณเคยรบกวนคนอื่น คนอื่นถึงกล้ารบกวนคุณบ้าง
  • การรบกวนคนอื่นคือการแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันวิธีหนึ่ง ขอแค่รบกวนคนอื่น จึงมีความเป็นไปได้ที่คนอื่นจะมารบกวนคุณ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณก็จะยิ่งแน่นแฟ้นและยิ่งรู้สึกลึกซึ่งขึ้นด้วย

Part 4: รู้จักขอความช่วยเหลือผู้อื่น คือตัวช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี

  • เราพูดไปแล้วว่าความสัมพันธ์ที่ดีมาจากการรบกวนขอความช่วยเหลือผู้อื่น แต่ไม่ได้พูดว่าคุณสามารถรบกวนคนอื่นได้ความอำเภอใจ เรื่องบางเรื่องหากคุณสามารถแก้ไขเองได้โดยไม่เสียแรงเลยสักนิดก็จงโปรดทำให้เสร็จโดยตนเอง ไม่ใช่จะโยนแต่ภาระของตนเองทั้งหมดให้ผู้อื่น
  • รบกวนคนอื่นต้องมีขอบเขตและรู้จักกาลเทศะ
  • เรื่องไหนใช้เงินแก้ปัญหาได้ก็จงใช้เงินแก้ก่อน แล้วค่อยรบกวนคนอื่น
  • รบกวนคนอื่นได้ แต่เจตนาอย่าเอาเปรียบ
  • อย่าใช้ความดีของคนอื่นมาเป็นเบี้ยการต่อรองที่มากจนเกินไป
  • ที่ช่วยคุณเพราะน้ำใจ ที่ไม่ใช่ช่วยคุณเพราะหน้าที่
  • หากครั้งต่อไปมีคนมาขอให้คุณช่วยพร้อมความรู้สึกว่าเป็นหน้าที่เป็นกฎเกณฑ์ ควรพูดคำว่า ไม่
  • ถ้าทัศนไม่ดีก็อย่ารบกวนคนอื่นเลย
  • หากเราเป็นฝ่ายเปิดปากขอความช่วยเหลือ เช่นนี้การช่วยเหลือให้ความร่วมมือต่อความหวังดีของผู้อื่นคือภาระหน้าที่ที่เราควรทำอย่างเต็มที่ แม้ปัจจุบันเขาอาจไม่ต้องการแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยต้องกล่าว “ขอบคุณ” หรือ “ขอโทษ” เขา
  • ไม่ว่าคนอื่นจะตอบรับให้ความช่วยเหลือหรือไม่ อย่าลืมกล่าว “ขอบคุณ”
  • ในชีวิตเราคนที่รู้จักแสดงความขอบคุณทันทีหลังจากรบกวนคนอื่นเท่านั้นที่สามารถเดินบนสะพานนี้เพื่อเข้าสู่ใจของอีกฝ่ายได้
  • เวลาที่หาคนอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ สิ่งแรกที่ต้องทำคือวางความคาดหวังลงซะ ขอแค่อีกฝ่ายทุ่มเทความพยายาม ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ ช่วยได้หรือไม่ได้ หรือแม้กระทั่งยิ่งช่วยยิ่งยุ่ง ก็ยังคงคุ้มค่าที่จะได้รับคำขอบคุณ ซึ่งสิ่งนี้ยังมีส่วนช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณดีอีกด้วย

Part 5: สิ่งสำคัญในความสัมพันธ์คือแลกเปลี่ยนมิตรภาพ ไม่ใช่แลกเปลี่ยนสินค้า

  • ความสัมพันธ์เป็นเรื่องขอคนสองคน การรบกวนก็เป็นเรื่องของคนสองคนเช่นกัน ไม่สามารถตบมือข้างเดียวได้ จำต้องอนุญาตให้คนอื่นเข้ามารบกวนคุณจึงจะได้ ที่จะทำให้ความสัมพันธ์กลายเป็นมิตรภาพ
  • เราทำดีต่อผู้อื่นแต่ไม่ได้รับสิ่งตอบแทนกลับมาถือว่าไร้มารยาท ผู้อื่นทำดีต่อเราแต่เราไม่ตอบแทนก็ถือว่าเสียมารยาทเช่นกัน
  • ความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคน หากคุณรบกวนคนอื่นแล้ว นั่นหมายถึงว่าคุณก็ต้องให้คนอื่นรบกวนคุณได้ด้วย
  • จำไว่ให้ดีว่ามิตรภาพที่ดีไม่เคยเป็นวันเวย์ จะต้องเป็นปฏิสัมพันธ์แบบทูเวย์ที่ “ฉันรบกวนเธอ เธอก็รบกวนฉันได้”
  • คณะที่คนอื่นกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน การไม่รีรอที่จะส่งความช่วยเหลือก็เป็นความดีอย่างหนึ่ง
  • เรื่องที่รับปากคนอื่นแล้วก็จะต้องทำตามให้เสร็จตามที่รับปากไว้
  • การช่วยเหลือแบบไม่มีกฎเกณฑ์สุดท้ายจะกลายเป็นความต้องการที่ไร้เหตุผล เพราะ คนอื่นเคยชินแล้วที่จะได้รับความช่วยเหลือจากเธออย่างสบายๆ
  • ไม่ว่าจะเป็นการถูกขอให้ช่วยหรือกระวีกระวาดที่จะเข้าไปช่วยเอง จงอย่าให้คนอื่นสร้างความคาดหวังในผลลัพธ์สูงจนเกินไป
  • การรับมาจัดการหากผลลัพธ์ออกมาดี อีกฝ่ายย่อมรู้สึกว่าคุณกระวีกระวาด คุณมีหนทาง แต่หากทำให้คำสัญญาเป็นจริงไม่ได้ ไม่เพียงทำให้เพื่อนผิดหวังครั้งใหญ่ ยังอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างกันอีกด้วย
  • ถึงจะเต็มใจช่วยก็ไม่ควรเสียเปรียบมากเกินไป
  • ช่วยคนอื่นได้ แต่อย่าทวงบุญคุณ
  • สิ่งสำคัญที่สุดบนโลกใบนี้คือความเชื่อใจ การที่คนคนหนึ่งเล่าเรื่องส่วนตัวให้คุณฟัง นั้นเพราะเขาให้ความสำคัญกับคุณ เชื่อใจคุณ คิดว่าคุณเป็นเพื่อน หากคุณปิดปากตัวเองไม่ได้ และเล่าเรื่องเขาออกไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณกำลังทำตัวเองให้กลายเป็นคนนอกที่ใครเห็นก็เกลียดไปโดยปริยาย
  • สุดท้ายทุกๆความสัมพันธ์ก็จะกลับสู่สมดุล มันจะทำให้สองฝ่ายได้รับการช่วยเหลือและชดเชยตามครรลองของธรรมชาติทุกครั้งที่คบหาช่วยเหลือหรือรบกวนกัน
  • เมื่อคุณเอ๋ยปากขอความช่วยเหลือกับคนที่คุณให้เคยให้ความช่วยเหลือ ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรมาต่อรองทั้งสิ้น
  • ในทุกความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน “การรบกวน” ไม่เพียงเป็นสิ่งที่มีอยู่แน่นอนเท่านั้น มันยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อีกด้วย
  • “การรบกวน” เป็นปฏิสัมพันธ์ในความสัมพันธ์ ขอแค่ “รบกวน” อย่างเหมาะสม ปฏิสัมพันธ์ดังกล่าวย่อมเป็นเรื่องดี

สรุปส่งท้าย

สรุปแบบสั้นๆได้ใจความ วิธีของหนังสือเล่มนี้ คือ “รบกวน” และ “ขอความช่วยเหลือ” คนอื่นบ้าง อย่าไปคิดเออเองก่อนว่าไม่โอเคร จนสุดท้ายโลกทั้งใบเราอยู่ตัวคนเดียว การรบกวน/ขอความช่วยเหลือ เป็นวิธีที่ Simple ที่สุดในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างแล้ว ที่เหลือก็ดูแค่เหมาะไม่เหมาะ และอย่าไปเบียดเบียนเขามากเกินไป และถ้าเขาช่วย แล้วก็อย่าลืมตอบแทนช่วยเขากลับด้วย เป็นสถานการณ์ Win win ที่แค่นี้ก็ทำให้คนสองคนมีความสนิทสนมกัน

เพื่อนๆเห็นด้วยกับหนังสือเล่มนี้ไหมครับ ส่วนตัวผมก็คิดว่าหนังสือเล่มนี้ก็เป็นเล่มที่อ่านแล้วทำให้ช่วยเปลี่ยนแนวคิดการสร้าง Relationship ดีครับ ซึ่งผมหวังว่าการรีวิวและการสรุปเนื้อหาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆลองไปอ่านฉบับจริงไม่มากก็น้อยนะครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ คุณกัญญารัตน์ จิราสวัสดิ์ในการแปลหนังสือเล่มนี้เพื่อใช้ในการอ้างอิงบทความครับผม

P.S. สำหรับใครที่อยากติดตามบทความผมแบบนี้อีก สามารถกด Follow เพื่อรับบทความไปอ่านก่อนใครได้เลยครับ

--

--

Nut P
Nut P

Written by Nut P

มาคุยกันได้ครับ สนใจด้าน Tech & Business fb.com/inut.panpp

No responses yet