ในตอนนี้จะเป็นการพูดถึงประสบการณ์การเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนจริงนะครับ สำหรับท่านใดที่อยากกลับไปอ่านย้อนตอนที่แล้ว ก็สามารถกดลิงค์ข้างล่างได้เลยครับ และถ้ามีข้อสงสัยอะไรก็สามารถทักผมมาได้เลยนะครับผม
“เหมือนจะราบรื่น แต่ก็ต้องเตรียมตัว”
การสอบเข้า
การสอบเข้าผมขออธิบายคร่าวๆนะครับ เนื่องจากเรื่องการแนะนำการสอบเข้าผมว่ามีคนที่สามารถแนะนำได้ดีอยู่แล้ว โดยสามารถติดตามได้กับเพจ FB ของพี่คนนี้เลยครับ
การสอบคัดเลือกเข้าก็มีใช้คะแนนอยู่ 2 ตัว ครับ คือ ใช้ CU-TEP (อันนี้ให้สอบผ่านเกณฑ์ตามพิธี) และ CU-BEST (อันนี้ใช้คัดเลือกเข้าจริง) ก็สิ่งที่แนะนำคือก็ก่อนสอบก็เตรียมตัวมาหน่อยครับ หาพวกแบบฝึกหัดเก่ามาทำซักเล่มสองเล่ม ซึ่งก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป แค่นี้ผมว่าก็ผ่านแล้วนะครับ สำหรับท่านที่ได้คะแนนน้อยจริงๆก็ลองสอบใหม่เรื่อยๆครับ หรือถ้าได้ไม่ทันจริงๆ ก็ลองยื่นไปก่อนไม่เสียหายครับ
หลังจากที่ยื่น ถ้าติดทางเว็บไซต์ของหลักสูตรก็จะประกาศรายชื่อให้ไปสอบความรู้พื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ครับ ก็ข้อสอบเป็นปรนัย ไม่ประกาศคะแนน เป็นความรู้รอบตัวด้าน IT + ความรู้พื้นฐานด้าน Algorithm และ Database หน่อยๆ ไม่ต้องซีเรียสครับ แต่ถ้าใครซีเรียสก็ลองไปขอตัวอย่างข้อสอบจากเพจพี่ตี้ได้เลยครับ (ถ้าเขายังให้นะครับ 555+)
ก็หลังจากที่สอบเสร็จสักอาทิตย์สองอาทิตย์ เขาจะเรียกสัมภาษณ์ครับ ก็ตอนสัมภาษณ์ไม่ต้องซีเรียสเช่นกันครับ บรรยากาศเป็นกันเอง อาจารย์ใจดี น่ารักทุกคน ก็อาจารย์ถามอะไรก็ตอบไปตามจริงครับ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ได้ทำงานสาย IT มา อาจารย์เขาก็อาจจะจี้หน่อยว่าเราแบบแน่ใจหรอ ซึ่งถ้าเกิดเราคิดว่าเราอยากเรียนจริง ก็ตอบไปอย่างมั่นใจครับ
หลังจากนั้นอีกประมานอาทิตย์นึง เขาก็ประกาศผลครับ ถ้าติดก็จะมีรายชื่อบนเว็บไซต์ แล้วก็มาเตรียมตัวมาเรียนปรับพื้นฐานประมาณเดือนนึงได้เลย!!!
ปรับพื้นฐาน
เอาเข้าจริงการเรียนปรับพื้นฐานเนื้อหามีการปรับมาในหลายๆรุ่นที่ผ่านมามากครับ โดยเมื่อก่อนนะฮะเนื้อหาที่เรียนก็จะเป็นการเรียนปรับพื้นฐานจริงๆ มีพวกเรียน Database เบื้องต้น บัญชีเบื้องต้น Stat เบื้องต้น บลาๆ แต่อาจารย์เล่าว่านิสิตที่เรียนหลักสูตรนี้เรียกร้องว่ามันไม่โอเครครับ ทางหลักสูตรเลยปรับเนื้อหาในการเรียนปรับพื้นฐานให้ไปเรียน SAP แทน (ซึ่งคนที่เรียน SAP ก็บ่นเหมือนกันว่าอยากให้กลับไปเรียนปรับพื้นฐานแบบเดิม ในอนาคตจึงไม่แน่นอน ทางหลักสูตรจะปรับเนื้อหาการเรียนปรับพื้นฐานเป็นแบบเดิมหรือไม่)
โดยการเรียน SAP นี้ก็เป็นการเรียนภาพรวมในเกือบทุก Module ของ SAP ครับ ข้อดี คือ เราได้มีโอกาสลองใช้ SAP สำหรับคนที่ไม่ได้ทำงานสายนี้คงไม่ได้มีโอกาสแตะทั้งโปรแกรมครับ แต่ข้อเสีย คือ มันเหมือนเป็นการเรียนแค่ภาพกว้างๆ ดังนั้นเอาจริงหลังเรียนเสร็จก็ลืม เหมือนไม่ได้อะไรครับ เหมือนว่าได้แค่ไปแตะๆเล่นๆโปรแกรมให้สนุกเท่านั้นเอง
แล้วเรื่องการอธิบาย Process ธุรกิจส่วนตัวผมคิดว่าวิทยากรยังทำได้ไม่ค่อยดีครับ เนื่องจากอาจด้วยเวลาที่จำกัด และการอธิบายเป็นภาพกว้าง ไม่ได้อธิบายเจาะไปธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง แล้วนอกจากนี้ตัว SAP ไม่ได้มีประโยชน์ต่อการเรียนเพื่อเตรียมตัวตอนเปิดเทอมมากนัก จะมีประโยชน์จริงๆก็สำหรับคนที่ทำ SAP เป็นโปรเจคจบเลย ก็ไม่แปลกครับที่ Feedback ออกมาจากผู้เรียนไม่ได้ดีขนาดนั้น แต่เอาหนะ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ หายาก ที่การเรียน SAP เป็นสิ่งที่หาเรียนได้ลำบากมากกว่าเรียนปรับพื้นฐานทั่วไป
ทริปรับน้อง
ก็เอาจริงนะครับ ปกติปริญญาโทก็ไม่น่าจะมีอะไรพวกนี้หรอก แต่พอดีผมเรียนในเวลาราชการครับ ก็เลยมีรุ่นพี่จัดทริปรับน้องให้รู้จักระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องกัน ก็ไปค้างชิวๆกันครับ สนุกๆ ที่ต่างจังหวัด ทำกิจกรรม เฮฮากัน มีจับสายรหัส รุ่นพี่แนะแนวการเรียนเบื้องต้นให้รุ่นน้อง แต่สายรหัสปริญญาโทมันก็จะแปลกกว่าปริญญาตรีหน่อยตรงที่ เราอาจได้พี่รหัสเป็นน้อง จนไม่รู้ว่าเราควรจะเรียกเป็นพี่หรือเป็นน้องดี 55+ แล้วหลังจากนั้นก็เปิดเทอม พร้อมเรียน กลับไปใช้ชีวิตเป็นนิสิตอีกครั้ง
เปิดเทอม
ก็เปิดเทอมแล้วคร้าบ ตอนเรียนก็เหมือน Come back to school ภาคในเวลา ก็จะอารมณ์เหมือนเรียนตอนปริญญาทั่วไป ซึ่งเทอมนึงก็จะเฉลี่ยเรียนเทอมละ 4 ตัว แต่เกือบทุกตัวก็จะมีงานกลุ่ม Project ที่หนักกว่าตอนปริญญาตรีครับ และเกือบทุก Project ต้องออกมา Pitch ครับ ดังนั้นก็ไม่ค่อยว่างครับ กลุ่มที่ Manage เวลาไม่ดี ตอนช่วงใกล้ส่งงานก็อาจต้องนัดมาทำงานที่มหาวิทยาลัยบ่อยหน่อย หรือกลุ่มไหนชอบทำสไตล์ Remote ก็ขึ้นอยู่กับการจัดการเลยครับ อย่างรุ่นผมก็ถือว่าน่ารักกันดีครับ มีการช่วยทำงานกันและกัน ช่วงใกล้สอบก็มีช่วยติวกันด้วย คนไหนเก่งด้านไหนก็มาช่วยเสริมเพื่อนคนอื่นที่อ่อนด้านนั้นครับ เช่น คนจบจาก Com Sci มาก็ช่วยติวเรื่อง IT ส่วนคนจบบริหารมาก็มาช่วยติวเรื่องการเงิน เป็นต้น
ก็จบช่วงก่อนเรียนไปเรียบร้อยนะครับ ในตอนต่อไปผมจะพูดลงลึกเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาที่เรียนในรั่วมหาวิทยาลัย 2 ปี สำหรับท่านที่สนใจก็เชิญไปอ่านแบบเป็นอย่างทางการก่อนได้เว็บไซต์ด้านล่างนี้เลยนะครับ
แล้วพบกันในตอนต่อไปครับผม !!!
