สวัสดีครับก็มาพบกันอีกตอนกับการอัปเดต Trends ของ Tech ในปี 2024 จากตอนที่แล้วที่อัปเดตในเรื่องของ Unicorn และ Startup อันนี้ก็เป็นข้อมูลที่ผมอ่านมาจากของ CBINSIGHTS แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจเลยมาแชร์ให้เพื่อนๆฟังครับ ถ้าใครพร้อมแล้วก็ไปติดตามกันต่อได้เลย
“AI ยังคงเป็น Trend และเป็นสิ่งที่ Impact แทบทุกวงการในปี 2024”
AI (Artificial Intelligence)
1) การ์ดจอ GPUs ขาดแคลน ทำให้บริษัทต้องทำงานอย่างชาญฉลาดขึ้น
จะเห็นได้ว่าจากเทรนด์ของ Generative AI ทำให้บริษัทต่างกระหายอย่างมากในการซื้อ GPU ไปรัน AI Model กระหายขนาดไหน ลองดูราคาหุ้น NVDIA ที่ใครซื้อเดือน May ปีที่แล้ว ก็จะได้กำไรไปกว่า 270% จากราคา $390 มา $1,065 ด้วยเหตุนี้หลายบริษัทจึงหันกลับมาโฟกัสกับการ Optimize AI Model เพื่อลดการกิน GPU และลงทุนกับ Startup ที่ทำเรื่องการลดต้นทุนพวกนี้ เช่น OmniML, Lightmatter
2) Multimodal AI จะเข้ามา ในฝั่ง Corporate บริษัทใหญ่
จากปกติหนึ่งโมเดล AI (Unimodel) จะรับ Input มาได้เฉพาะ Text หรือ Image แล้วรันผลลัพธ์ออกมา ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเป็น Text, Image, Voice ตัว Multimodal AI จะรับได้หมด ยกตัวอย่างเช่น การแปลหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีภาพและตัวหนังสือ ถึงตอนนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังเอาไปใช้ไม่ได้จริงมากนัก แต่ก็มีหลายบริษัทที่กำลังพัฒนาโมเดลตัวนี้ไม่ว่าจะเป็น OpenAI, Meta, Google หรือจะ ARTERA ที่ทำเรื่องวินิจฉัยโรคจากคนไข้
3) Synthetic Data จะเป็นที่ต้องการมากในเร็วๆนี้
มีงานวิจัยบอกว่าในปี 2026 Data ดีๆทั่วทั้งโลกจะแทบถูกใช้ออกไป Train ทั้งหมดใน LLMs ที่ใช้โดย Generative AI และในปัจจุบันพวกข้อมูลที่ได้จากการ Scarping ก็เริ่มเอามาใช้ไม่ได้แล้ว ตอนนี้หลายบริษัทจึงเริ่มมีการทดลองใช้ Synthetic Data (Data สร้างโดย AI เอง) มาใช้รันโมเดล ตัวอย่าง Startup ทำด้าน Synthetic Data เช่น aindo, scale, gretel
Financial Service & Insurance
1) วงการธนาคารกำลังบ้า FOMO กับ AI
ในต้นปี 2024 10 ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของ US มีพูดถึงเกี่ยวกับ AI มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งตัวที่ทำให้ Bank FOMO ก็คือ Gen AI ที่ไม่ว่าจะเอามาเป็นเลขาช่วยตอบคำถามตอนทำงาน, ทำเรื่อง Research หรือพวกการแนะนำ ต่างก็มีประโยชน์มากในวงการนี้ แต่ก็มียัง Challenge อยู่ในเรื่องของความน่าเชื่อถือของ Data และ Privacy หลายธนาคารจึงมีการลงทุนใน AI และ FOMO มาจนถึงปัจจุบัน
2) Blockchain กำลังอยู่ในช่วงขาลง
ด้วยที่ Gen AI บูมมาก พร้อมกับที่เป็นช่วงตลาด Crypto ขาลงในปี 2023 ทำให้นักลงทุนที่มา Funding ลดลงในปี 2023 และต้นปี 2024 อย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าช่วงต้นปีนี้ตลาด Crypto จะเริ่มกลับมา Rebound แล้วก็ตาม หลาย Startup ที่ทำวิจัย Blockchain กับ Bank ก็ปิดตัวลง ซึ่งสถานการณ์ของหลายธนาคารในปัจจุบันก็คือยังไม่ได้เลิกกับ Blockchain แต่ก็ไม่ได้โฟกัสหรือเร่งทำกับด้านนี้มากนัก
3) ภัยธรรมชาติโลกร้อนที่ผิดเพี้ยนเป็นโอกาสของ Insurtech
ช่วงใน 10 ปีที่ผ่านมา คน US มีความตระหนักเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่เกิดจากโลกร้อนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้หลาย Startup ลงมาเล่นตลาดนี้ในเรื่องการใช้ AI ทำนายสภาพอากาศ โดยใช้โมเดลธุรกิจประกันที่สามารถทำเงินเรื่องนี้ได้เป็นอย่างมาก ตัวอย่าง Startup ได้แก่ PANO, MITIGA, reask
Enterprise
1) Tool ที่ช่วยเขียน Code เริ่มทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการนักพัฒนา
ทางสำนักสถิติของ US ยังคาดว่า Software Developer ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกนาน ไปเป็นอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันก็มี Tool เข้ามาช่วยเขียน Code มากมาย ถึงแม้ว่า Tool no-code, low code จะเข้ามาในตลาดเรื่อยๆ แต่สุดท้ายในระยะยาวคาดว่า Tool ที่ใช้ AI มาช่วย Coding ที่มีความ Flexible จะนิยมกว่าในตลาดนี้ ด้วยเหตุนี้อาจมี Startup ที่ทำเรื่อง IT Security เกี่ยวกับเรื่องการเขียนโค้ด AI เพิ่มขึ้น
2) ตลาดการจ้างงาน และ Payroll แบบข้ามประเทศกำลังอยู่ช่วงขาลง
ด้วยการฟื้นตัวจากโควิด ในปี 2023 ไม่มี Startup ที่ทำเกี่ยวกับ Global employment ได้รับการ Funding เลย remote.com บริษัท Global employment ชื่อดัง ก็ออกมาบอกว่าในปี 2023 การจ้างงานข้ามประเทศก็มีการลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างตัวบริษัทเองก็ทำการ Freeze การจ้างงานข้ามประเทศเกือบทั้งหมด
3) Quantum Computing อาจออกมาสู่ตลาดใช้ได้ไวกว่าที่คิด
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนวิจัยในตลาด Quantum เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในปลายปี 2023 ที่ผ่านมา Atom Computing เป็นบริษัทแรกที่สามารถทำ Quantum ได้เกินกว่า 1,000 qubits เรียบร้อย จากเดิมที่เป็น Mission ใน 3 ปีก่อนที่อยู่ 65 qubits แต่ถึงอย่างไรก็ดีก่อนที่จะเอา Quantum ใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้ ก็ยังต้องมีปรับอะไรอีกมากทั้งเรื่องการลดระดับ Error rate, ขนาดชิฟ และอื่นๆ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ Quantum มันเอาไปใช้ทำ AI ต่อได้ ถ้าทำออกมาสำเร็จ ตัวอย่าง Startup เช่น Qilimanjaro, Entropica Labs, Multiverse
สำหรับคนที่อยากเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ Quantum ง่ายๆสามารถไปอ่านย้อนตอนก่อนที่ผมเขียนได้ครับ
Cybersecurity
1) การเพิ่มขึ้นของภัยไซเบอร์ดันให้บริษัทร่วมมือกัน
ในปี 2023 มีการเพิ่มขึ้นของภัยไซเบอร์ที่พยายามโจมตีกว่า 104% โดยถ้าบริษัทเสียหายทีนึงก็โดนเฉลี่ย 150 ล้านบาท ซึ่งในปี 2023 MGM Resorts ทำสถิติโดนไปกว่า 3,500 ล้านบาท ด้วยเหตุนั้นเทรนด์ของตลาด Cybersecurity บริษัทใหญ่ๆทำ M&A acquire บริษัทเล็ก เพื่อเสริมความแข่งแกร่งให้ไล่ตาม Hacker เช่น Splunk
2) ใช้ AI สู้ AI ในเรื่องของ Cybersecurity
การพัฒนาของเทคโนโลยี AI ทำให้ การโจมตีของ Cyber เพิ่มมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Phishing Email หรือ Call Center ปลอม ซึ่งตอนนี้มีหลาย Startup ที่ทำการพัฒนา Gen AI เพื่อจะมาป้องกันภัย Cyber เหล่านี้ เช่น SlashNext, ASants
Healthcare & Life Science
1) มีการแข่งขันในตลาดยาโดยใช้ AI สู้กันอย่างดุเดือด
ในช่วง 10 ปีที่มา ยาที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ล้วนเป็นยาแบบ Small Molecule โดยการทำยาชนิดนี้จำเป็นต้องใช้ AI ในการช่วยพัฒนาประกอบ จึงไม่แปลกใจว่าบริษัททำยาใดที่มี AI Model แข็งแกร่งจะพัฒนายาดีๆออกมาได้ก่อน บริษัท Top 3 ในการใช้ AI มาผลิดยา ได้แก่ Roche, leadps, janssen
2) ธุรกิจ Digital Therapeutics (DTx) และ Wellness อยู่ในช่วงขาลง
เป็นธุรกิจที่ใช้ Software ช่วยรักษาและป้องกันโรค เช่น ใช้ที่วัดเบาหวานเชื่อมกับ Mobile app ในการดูแลเรื่องโรคเบาหวาน ซึ่งธุรกิจในด้านนี้ 2 ปีที่ผ่าน นักลงทุนหมดความสนใจอย่างเห็นได้ชัด ทั้งบริษัท Pear Therapeutics ที่ใหญ่ที่สุดด้านนี้ก็เพิ่งล้มละลายไป ด้วยเหตุที่หาทุนไม่ได้ บริษัทในวงการนี้จึงต้องทำการ M&A กันเพื่อความอยู่รอด เช่น dreem, Limbix
3) ตลาดที่ใช้ AI ทำเกี่ยวกับ“สมอง” กำลังสู้เป็นที่ดุเดือด
ตั้งแต่ Elon Musk เปิดตัว Neuralink มา นักลังทุนต่างก็สนใจกับบริษัทที่ใช้ AI ในการทำเกี่ยวกับสมองมนุษย์เป็นอย่างมาก ปัจจุบันก็เริ่มมีบริษัทที่นำข้อมูลสมองมาให้ AI อ่านแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังคงออกมาไม่ค่อยดี
Retail & Consumer
1) Chatbot เข้ามาในตลาด e-commerce อย่างท่วมท้น
ตลาด Online มีส่วนการแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และ CAC หรือค่าใช้จ่ายที่ได้ลูกค้าต่อหัวก็เพิ่มขึ้นมาเช่นกัน โดยใน 10 ปีก็เพิ่มขึ้นมาประมาณ 3 เท่า ด้วยที่ร้านค้าออนไลน์ที่เปิดกันง่ายขึ้น และการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทำให้การใช้ Chatbot ของร้านค้าที่สามารถต่อรองราคา หรือ Upsell ขายสินค้า Auto ได้เองในปัจจุบันจึงเป็นที่นิยม เช่น Nibble, Zowie
2) ร้านค้ามีการนำ AI มาช่วยป้องกันเรื่องสินค้าที่มีอยู่ในคลังน้อยกว่าตัวเลขบัญชี
เรื่องสินค้าที่มีอยู่ในคลังน้อยกว่าตัวเลยบัญชีเป็นปัญหาของร้านตั้งในอดีตมาเนิ่นนาน ซึ่งตอนนี้ก็มีหลาย Startup ที่ใช้ AI มาแก้ปัญหานี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กล้องตรวจหรืออื่นๆ และได้รับ Funding ปีที่แล้ว เช่น Verkada, everseen, SOLINK
3) AI ส่งคลื่นของการเปลี่ยนแปลงให้วงการ Gaming
ตลาด Gaming มีแนวโน้มที่จะโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบทบาทของการใช้ Gen AI มาช่วยคิดและสร้าง Content รวมถึงช่วย Developer ในการ Coding ช่วยพัฒนา Game ทำให้ต้นทุนการพัฒนา Game ลดลงเป็นอย่างมาก เช่น Anything World, Circle Labs
Industrials
1) Humanoid Robot กำลังเป็นที่นิยมในวงการ Manufacturing มากที่สุด
ตัวหุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์ หรือ Humanoid Robot ตัวคนก็ให้ความสนใจมานาน และก็คงเป็นที่น่าสนใจอีกต่อไป โดยปัจจุบันบริษัทที่นำในเรื่องนี้อยู่คือ Tesla และ Boston Dynamics ส่วนถามว่าปัจจุบัน Humanoid Robot นิยมสร้างเอาไปใช้ในวงการอะไร ก็จะเรียงลำดับจาก Manufacturing, Logistic, Retail และ Healthcare ตามลำดับ
Venture
1) Corporate Venture มีแนวโน้มที่หันมาลงทุนแต่สิ่งที่ถนัด
ด้วยเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และการเติบโตของ Tech หลังฟื้นตัวของ Covid ที่ไม่ได้อย่างคาดคิด ทำให้เม็ดเงินของนักลงทุนต่ำลง และมีแนวโน้มใน ปี 2024 ก็ยังน้อยเหมือนเดิมเช่นกันจากข้อมูล Q1 ซึ่งสามารถไปอ่านรายละเอียดได้จากบทความตอนที่แล้ว ยกเว้นแต่ที่ประเทศญี่ปุ่นที่ VC ยังมีการลงทุนเยอะ
EP 97: ส่อง Unicorn Startup Q1 ปี 2024 | by Nut P | Apr, 2024 | Medium
ด้วยเหตุนี้ VC ที่คาดว่าในปัจจุบันก็คงจะลงอะไรแต่สิ่งตัวเองถนัด หรืออยู่ใน Strategy หลักของตัวเอง อะไรที่เป็นสิ่งบุกเบิกใหม่แหวกแนวอาจหาโอกาสลงทุนได้ยาก
2) Startup ต้องหากลยุทธ์เพื่อให้อยู่รอดให้ได้ในปีนี้
ต่อจากข้อที่แล้วด้วยเม็ดเงินจากนักลงทุนน้อยลงเป็นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังคงเป็นต่อไปอีกในปีนี้ ทำให้เหล่า Startup มีโอกาสไม่รอดจากการหมดเงินทุนเป็นอย่างมากรวมถึง Startup ที่เป็น Unicorn แล้ว โดยในปี 2023 ก็มี Startup ที่ปิดตัวลงไปมากกว่า 309 บริษัท มากสุดในรอบ 4 ปี เหล่า Startup ก็ต้องหากลยุทธ์ให้อยู่รอดในช่วงเศรษฐกิจที่ย่ำแย่นี้ต่อไป
สรุปส่งท้าย
ก็จบกันไปแล้ว เทรนด์ Tech ในปีนี้ง่ายมาก สรุปก็คือหลักๆมาจาก AI ถ้าจะทำด้าน Tech ไม่ว่าวงการอะไร ต้องมีเรื่อง AI ไว้ก่อน ถ้าเป็นด้านอื่น ก็ยากที่จะได้เงินทุน ด้วยเศรษฐกิจโลกที่เรียกว่ายังไม่ได้ดีนัก นักลงทุนมีความกล้าเสี่ยงที่จะลงทุนอะไรใหม่ๆน้อย ก็เพื่อนที่ทำ Startup ในปีนี้ก็อาจจะต้องใช้ความพยายามมากกว่าปีอื่นๆเพิ่มขึ้นหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสนะครับ เพราะ ในทุกปัญหา ย่อมมีโอกาสเสมอ เพราะ หลายคนที่มองต่าง ก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ผมก็ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจสำหรับคนที่ทำธุรกิจในปีนีครับ
สำหรับคนที่อยากอ่าน Tech Trend 2024 Report ฉบับเต็ม สามารถไปอ่านได้ที่ลิงก์นี้ เป็น PDF 129 หน้า
https://www.cbinsights.com/research/report/top-tech-trends-2024/
ก็อย่าลืมกด Follow กันนะฮะ เพื่อเป็นพลังให้ผมมาแชร์บทความดีๆแบบนี้อีก วันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับผม🙏🙏
