สวัสดีครับ พอดีผมได้มีโอกาสเข้าร่วมใน Session Microsoft Ignite After Party Thailand 2022 เลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆฟังครับว่าตอนนี้ไมโครซอฟต์มันไปถึงไหนแล้ว บอกได้เลยว่า Theme ของปีนี้น่าสนใจมาก ใครอยากรู้ลง Detail หรืออยากรู้ว่าสิ่งที่อัปเดตใหม่จะไปช่วยองค์กรหรือธุรกิจของเพื่อนๆได้อย่างไรบ้าง ต้องไม่พลาดเลยนะครับ ใครพร้อมแล้วก็ไปลุยกันต่อได้เลย 👍👍
“ฟีเจอร์ใหม่เอ่อล้น แทบทุกอย่างมีเบื้องหลัง Backup ด้วย AI”
หลังจากที่ทาง Microsoft เพิ่งได้จัดงาน Microsoft Ignite 2022 ที่ซีแอตเทิลมาสดๆร้อนๆในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณทีมงานที่ไทยใจดีมาช่วยสรุปให้อีกทีสำหรับคนที่พลาดว่าเกิดอะไรขึ้น โดยผมบอกได้เลยว่าปีนี้ Microsoft อัปเดตเยอะมาก ถ้าเขียนทั้งหมดคงได้ตำราหลายเล่ม ซึ่งผมขอสรุปตัวหลักๆที่สำคัญและคิดว่าจะมีประโยชน์ต่อองกร์ไทยเราที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Microsoft ดังนี้นะครับ
5 Theme ของ Microsoft ปีนี้
- Be data-driven and optimize with Azure
- Deliver efficiency with automation and AI
- Re-energize your workforce with Microsoft 365
- Innovate with a cloud developer platform
- Protect everything, everyone, everywhere with comprehensive security
Theme #1: Be data-driven and optimize with Azure
- Azure Arc >> Tool ใหม่ ที่สร้างเพื่อจัดการ Hybrid & Multi Cloud โดยเฉพาะ จากเดิมที่ถ้าเราใช้ Cloud อื่นนอกจาก Azure กับ Microsoft อาจมีความยุ่งยากนิดหน่อย แต่ด้วย Tool ใหม่นี้ไม่ว่าคุณจะมี DB on Premise หรือพวก Native Cloud เช่น AWS, Google Cloud หรือพวก Edge, Azure Stack เราสามารถจัดการได้ที่เดียวจบ ด้วยการใช้ร่วมกับ Kubernetes และ GitOps
- Azure Cosmos DB >> Support PostgreSQL และเหล่า No SQL อย่าง MongoDB ได้แล้วนะ และพวกการขยาย App Server แต่เดิมที่แบบเป็น Node จะมีปัญหาคอขวด แต่ตอนนี้แก้ปัญหาด้วยการเป็น Distribute Database ได้เป็นที่เรียบร้อย
- Azure Virtual Machine ด้วย Ampere Altra Arm-based Processors >> ก็ตาม Concept ของ Processor รุ่นใหม่ เร็วกว่า แรงกว่า เอาไปใช้กับ Server เกมส์ได้สบายๆ ใช้กับพวก Native Cloud ร่วมกับ Kubernetes อะไรได้หมด
- Azure Premium SSD v2 disk storage >> SSD ของ Azure ตัวใหม่ ที่ดีไซน์ออกมาแก้ปัญหาเรื่อง Performance Workload ที่ Microsoft เคลมว่าตัวนี้เหมาะแก่การอัปเกรดพวก Performance ด้วยการไม่เพิ่ม Storage Capacity ตามได้
Theme #2: Deliver efficiency with automation and AI
- Azure Open AI >> Open AI เป็นบริการที่เปิดให้ Developer มาร่วมใช้และพัฒนา AI ซึ่งปัจจุบันมี Use Case ของ Microsoft หลายตัวมาก เช่น AI ช่วยเขียนบทความ, การทำประกัน, การทำพวก Code Generation ซึ่งแต่ก่อน AI พวกนี้ก็เคยมีอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันฉลาดขึ้น โดย AI พวกนี้มักอยู่ฟังก์ชันด้านหลังของพวกผลิตภัณฑ์ Microsoft ด้วย ซึ่งตัวที่ผมคิดว่าน่าสนใจและคัดมาดังนี้นะครับ
- Azure Open AI DALL E2 >> Open AI ที่ทาง Microsoft ได้ร่วมทุนกับ Elon Musk และบุคคลชื่อดังต่างๆในเวลาที่ผ่านมา ซึ่ง AI ตัวนี้มีฟังก์ชันหลักๆ คือ การให้ AI ให้วาดภาพ ตามที่ข้อความที่เราพิมพ์สั่งลงไป ลองดูใน Youtube DALL E2 ลิงก์นี้เพื่อให้เห็นภาพได้ครับ
- Azure Open AI Codex >> Open AI ที่ช่วยในการเขียนโค้ด จนในปัจจุบันถึงขั้นฉลาดที่เราสามารถพิมพ์ภาษาคนเป็นภาษาอังกฤษให้ AI Generate เป็นโค้ดพร้อมใช้งานได้เลย โดยตอนนี้มีใช้งานใน Github ด้วย Github Copilot Service และใน Power Platform เช่น Power BI, Power Automate ซึ่ง AI ในอนาคตมันก็จะฉลาดขึ้น ผันตัวไปเทรนด์ Low Code ไปจนถึง No Code เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- Azure Cognitive Service >> แปลง่ายๆคือบริการ AI อ่านหรือแปลงเป็นพวก Text สิ่งที่อัปเดตคือมันฉลาดขึ้น และปัจจุบัน AI ของ Microsoft รองรับภาษาไทยแล้ว ให้นึกถึงเรื่องพวก NLP โดย Use Case ที่ใช้ เช่น ระบบ Call Center ทำพวก Recommendation, Sentimental Analysis และการทำบันทึกการประชุมใน MS Team ที่เห็นเขาบอกว่าไม่ใช่แค่เพียงแปลจากเสียงแป๊ะๆมาบันทึกทุกคำตามที่สิ่งที่เราพูดเท่านั้น แต่ไปไกลถึงที่มันสามารถทำสรุปที่ประชุมได้ด้วยนะ
- Microsoft Syntex >> ผลิตภัณฑ์ Microsoft ตัวใหม่ที่เป็น AI เบื้องหลังที่ช่วยจัดการไฟล์ต่างๆ เช่น ใน Sharepoint ให้สามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น และมี Data เก็บไว้ใช้วิเคราะห์ แปลว่าในอนาคตเราอาจจะไม่ต้องห่วงเรื่องการค้นหาไฟล์ใน Sharepoint ไม่เจอต่อไปอีกแล้ว โดยตัวนี้มี Plan ว่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2023
- Microsoft Designer >> ผลิตภัณฑ์ Microsoft อีกตัวที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ในปีนี้ ที่เกิดมาจาก Open AI DALL E2 ที่เพิ่งกล่าวมา ซึ่งคอนเซปต์ก็เหมือนกันเลยคือการพิมพ์แค่ Text เพื่อให้ AI สร้างรูปที่เราต้องการ ก็ลองไปเล่นกันได้ครับ
Theme #3: Re-energize your workforce with Microsoft 365
- Microsoft 365 >> รีแบรนด์เปลี่ยนชื่อจาก Office 365
- Microsoft Team Premium >> MS Team เวอร์ชันที่ล้ำเพิ่มไปอีก ด้วยฟีเจอร์ AI ใหม่ช่วยสรุปการประชุม การจับภาษาไทยที่ฉลาดขึ้น พร้อมทั้งเรื่องการ Personalized และ Secure มากกว่าเดิม เช่น การเก็บประวัติเข้าออกการประชุม, ใครแคปหน้าจอ, มีลายน้ำ, Advanced Webinar, การส่ง Calendar แบบ Advanced Virtual Appointment ผ่านเว็บโดยไม่ต้องโหลดแอปได้เลย ก็คาดว่าจะเริ่มขายในเดือน ก.พ. ปีหน้า ราคา $10 ต่อเดือน
- Microsoft Mesh >> อีกตัวไฮไลท์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับโลก Metaverse ปัจจุบันในเวอร์ชันนี้ยังไม่เปิดให้คนทั่วไปดาวโหลด์ใช้งานได้ ก็ยังคงต้องรอต่อไป โดยผมก็ได้ลองเล่นกับคนที่มีเวอร์ชันทดลองละ ก็เท่ดี ซึ่งเวอร์ชันที่ล่าสุดมาโชว์ก็จะรองรับการสร้าง Avatar ขยับคุยแทนเราได้ใน MS Team แต่พวก Gesture อะไรยังไม่ขยับตาม ก็ต้องรอการพัฒนาต่อไป
- Microsoft Viva >> ของใหม่ที่เพิ่งเปิดขายในปีนี้ เป็นคล้ายๆอาณาจักร Super App สำหรับองค์กร มีฟีเจอร์แยกย่อยหลายตัว เช่น ฟีเจอร์ตั้ง OKR, คอร์ส eLearning สำหรับพนักงาน หรือจะเป็นเรื่อง Sales ที่สามารถไปต่อกับ Dynamic 365 ได้ก็มี ซึ่งเขา Define ตัวเองว่าเป็น Employee Experience Platform
- Microsoft Places >> ตัวใหม่ที่คาดว่าจะมีให้ใช้ในปีหน้า โดยสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงาน Hybrid Working โดยเฉพาะ ทั้งเรื่องการเช็กว่าพนักงานคนไหนทำที่บ้าน ออฟฟิส ขาด ลา มาสาย หรือกระทั้งเรื่องการจอง Hot Seat ฯลฯ
- Microsoft Stream >> เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ตัดต่อวีดีโอ อัดหน้าจอในแอปได้เลย
- Microsoft Clipchamp >> โปรแกรมวีดีโอตัดต่ออีกตัว ที่ Microsoft acquire มา และเอามาพ่วงให้ใช้กับ Microsoft 365
- Microsoft Loop >>Productivity Tool อารมณ์คล้ายๆ Notion ก็รอลองใช้กันไป
Theme #4: Innovate with a cloud developer platform
- Power Automate >> เป็น App ที่ Growth เยอะมาก, AI ที่ช่วยฉลาดขึ้น, มี Plugin Integrate กับ Excel ได้แล้ว ไม่ต้องเขียน VBA ให้เหนื่อยยาก
- Power BI >> AI พวกการ Suggest ฉลาดขึ้น, การแชร์ แก้ไข ดู Report สามารถทำบน One Drive กับ Share Point ได้เลย, รองรับ Dataset ขนาดใหญ่บน Power BI ได้มากขึ้น, สามารถแชร์ Dataset/Report ขององค์กรให้คนภายนอกตามสิทธิ์ที่เราต้องการได้แล้ว
- Power Apps >> ทำ Co-authoring หรือการแก้ไฟล์หลายคนใน Workspace เดียวกันได้แล้ว
- Visual Studio 2022 17.3 >> การทำงานด้วย C++ เร็วขึ้น เอาไปใช้สร้างเกมส์ หรือพวก IOT ได้สบายๆ พร้อมฟีเจอร์อัปเดตใหม่ให้ใช้ง่ายขึ้นอีกมากมาย เช่น Git Line-staging, Live Unit Testing, การ Deploy Azure Container App ด้วยคลิกเดียว, AI แนะนำ Code ที่ฉลาดขึ้น
- GitHub Copilot >> ที่มีอัปเดตคือ สามารถมี UI Mobile App ให้เปิดใช้งานดูได้ง่ายๆแล้ว และเพิ่มพวกฟีเจอร์เล็กๆน้อยๆให้ใช้งานง่ายขึ้น โดยในอนาคตเห็นบอกว่าจะมีฟีเจอร์ที่ใช้แค่เสียงก็สามารถให้ AI เขียนโค้ดออกมาได้ด้วย
- Microsoft DevBox >> ก็เพิ่งเปิดตัวให้ใช้งานแบบ Public Review ในปีนี้เป็นที่เรียบร้อย อธิบายง่ายๆมันคือ Azure Virtual Desktop ที่เปิดเป็น VM ให้ Dev พร้อมใช้เป็นที่เขียนโค้ดกัน พึ่งพาแทนการใช้คอมแรงๆ
Theme #5: Protect everything, everyone, everywhere with comprehensive security
- Microsoft Defender for Cloud >> หลักๆเรื่อง Security ปีนี้ก็ยังอยู่ใน Theme ของ Cloud โดยฟีเจอร์ที่พัฒนาของ Defender คือ มีให้รองรับเรื่อง DevOps ทั้งในเรื่องของ Process และ Score, การรองรับ Hybrid Cloud / Multi Cloud ก็ทำได้ และเรื่องอื่นๆของ Security ที่มีการอัปเดตให้ดีขึ้น
สรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรบ้างครับเพื่อนๆ เนื้อหาอัดแน่นไหมครับ 55+ ขนาดอันนี้เป็นที่แค่ผมสรุปจากคนที่สรุปจากงาน Microsoft Ignite จริงมาอีกทีนะครับ ลองดูว่าตัวใหม่ไหนจะบูม ก็ขอขอบคุณทีมงานไทยอีกที ก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ให้เพื่อนๆสามารถอัปเดตความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft และสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ในองค์กรตัวเองได้ไม่มากก็น้อยนะฮะ
สำหรับใครที่อยากให้ผมได้แชร์บทความดีๆแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกด Follow ผมกันนะฮะ วันนี้ผมก็ขอจบเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ🙌🙌