Source : heavy.com

EP 31 : Rohan Oza นักธุรกิจสายการตลาดเบอร์หนึ่งในอเมริกา

Nut P
2 min readSep 19, 2020

--

โรฮาน โอซ่า (Rohan Oza) ผู้ที่หลายคนต่างยกย่องว่าเป็นเบอร์หนึ่งของนักธุรกิจสายการตลาดที่ประสบความสำเร็จในประเทศอเมริกา จากอดีตพนักงานบริษัท Coca-Cola ที่ออกมาไปทำแบรนด์เครื่องดื่มวิตามิน แต่สุดท้าย Coca-Cola ต้องมาง้อให้กลับมาทำตำแหน่ง CMO จนปัจจุบันการเป็นเศรษฐีที่มีสินทรัพย์เกินกว่า $200 ล้าน สำหรับใครที่อยู่สายการตลาด คนนี้ก็เป็นบุคคลตัวอย่างที่พลาดไม่ได้ครับ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปรับชมกันได้เลย

“ผมไม่ออก เขาก็ไล่ผมออก ผมเลยชิงลาออกก่อนเองดีกว่า”

โรฮาน โอซ่า เริ่มแรกเป็นชาวอินเดีย เกิดในปี 1971 ที่ประเทศแซมเบียในแถบทวีปแอฟริกัน ภายหลังได้ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ จบปริญญาตรีวิศวอุตสาหการที่มหาวิทยาลัยน๊อตติ้งแฮม และได้ทำงานที่โรงงานผลิต Mars ของ M&M แล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ จึงผันตัวเปลี่ยนสายไปเรียนต่อ MBA ด้านการตลาดที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอนนั้นก่อนออกไปเรียนต่อ เขาได้บอกกับหัวหน้าว่าเขาอยากทำงานด้านการตลาด แต่หัวหน้าของเขาก็ตอบกลับมาทันควันว่า “คุณไม่เหมาะกับการตลาดนี้หรอก” และภายหลังเขาก็ได้ไล่โรฮานออก

หัวหน้าเขาในปัจจุบันคงอายคำพูดและการกระทำในอดีตนี้แน่แท่ เพราะ หลังจากที่โรฮานได้เรียนจบสายด้านการตลาด ชีวิตของเขาก็ประสบความสำเร็จไปใกลสุดขอบทาง

โรฮานกล่าวว่า การถูกไล่ออกครั้งนี้เหมือนมันเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเขา การโดนดูถูก ทำให้เขามีใจสู้และอยากพิสูจน์ว่าเขาก็สามารถทำด้านการตลาดได้

ด้วยความสามารถการตลาดที่ซ้อนเร้นของเขา งานแรกที่อเมริกา โรฮานสามารถเข้าไปทำงานได้ถึงตำแหน่งระดับผู้จัดการด้านการตลาดที่บริษัท Coca-Cola โดยเขามีหน้าที่รับผิดชอบแบรนด์ Sprite และ Powerade

เขาเป็นผู้บุกเบิกคนแรกๆที่ใช้การตลาดโดยการใช้ฮิปโฮปและคนวัยรุ่นในการโฆษณา ด้วยการไปเป็นสปอนเซอร์ให้เหล่า DJ และแจก Sprite แบบไม่อั้น ซึ่งความกล้าในการทำสิ่งใหม่ก็ประสบผลสำเร็จ และยอดขาย Sprite ช่วงที่เขาบริหารก็เพิ่มขึ้น 30% ทันที

โรฮานกล่าวว่า

“ผมเป็นส่วนหนึ่งของทีมอันอัศจรรย์ที่สามารถทำให้ Sprite กลายเป็นแบรนด์ที่เท่ที่สุดในอเมริกาได้”

“ผมสร้างแบรนด์ด้วยการหาพาร์ทเนอร์ที่ดี ทำการสร้างสะพานเชื่อมต่อระหว่าง Sprite และฮิปฮอป เอาดาราอเมริกันและผู้เล่น NBA มาอยู่ฝั่งผม”

“ผมสร้างให้ Sprite มีชีวิตอยู่บนสนามบาสเกตบอลและบนคอนเสิร์ต”

ส่วนแบรนด์ Powerade โรฮานก็ทำได้ประสบความสำเร็จเช่นกัน ถึงแม้จะไม่ถึงระดับ Sprite เพราะสิ่งที่ Sprite ทำได้นั้นขีดเส้นไว้สูงมาก ซึ่งสิ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างถ่วมท้นนั้นกลับมาแว้งกัดโรฮานในภายหลัง เพราะ จากที่กล่าวกันว่าการทำให้อะไรดีๆนั้นดูเหมือนยากแล้ว แต่การที่ยังคงรักษาความดีไว้หรือสร้างความดีให้เหมือนเดิมนั้นยากกว่า โดยในปี 2002 โรฮาน ได้ตัดสินใจทำการลาออกจากบริษัท Coca-Cola และไปทำที่บริษัท Glacéau ที่มีสินค้าหลักเป็นเครื่องดื่มวิตามินแทน โดยโรฮานกล่าวว่าถึงเขาจะไม่ออก Coca-Cola ก็คงไล่ออกเขาแทน เขาก็เลยชิงลาออกก่อนดีกว่า

ในบริษัท Glacéau โรฮาน ได้ทำตำแหน่ง CMO ที่เป็นตำแหน่งที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทในด้านการตลาด ด้วยความสามารถของ โรฮาน ที่ไปที่ไหนก็ไปได้ดีซะหมด เขาสามารถปั้น Glacéau จากเริ่มต้นที่มียอดขาย $25 ล้าน กลายเป็น $700 ล้านได้ภายใน 2 ปี และได้เป็นพาร์ทเนอร์กับกลุ่มคนชื่อดังต่างๆมากมาย อาทิ 50 Cent, เลอบรอน เจมส์ ซึ่งจากความสำเร็จนี้ทำให้เขาได้หุ้นของบริษัทเป็นผลตอบแทนกลับมาถึง 5%

เครื่องดื่มวิตามิน Glacéau | 3.0 NY

จากความสำเร็จในการสร้าง Glacéau ของโรฮาน ไม่นาน Coca-Cola ก็เข้ามาซื้อ Glacéau ด้วยมูลค่ากว่า $4.2 พันล้าน โรฮานที่มีหุ้น 5% ก็ตัวเบา ขายหุ้นทิ้งกลายเป็นเศรษฐีพันล้านข้ามวัน

หลังจากที่ Coca-Cola ได้ซื้อ Glacéau ไป Coca-Cola ก็ได้มาง้อเรียกตัวโรฮานกลับ และให้ตำแหน่งเขาเป็น CMO ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใหญ่ที่สุดในด้านการตลาดของ Coca-Cola ที่เป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันแล้ว โดยโรฮานก็ตอบรับและทำงานกับ Coca-Cola ต่อไปสัก 2 ปี ในปี 2009 เขาก็ได้ลาออกจาก Coca-Cola อีกครั้ง และหันไปเปิดบริษัทลงทุนเป็นของตัวเองที่ชื่อว่า Idea Merchants Capital

ชีวิตการลงทุนในธุรกิจของเขาก็ไปด้วยดี โดยส่วนมากธุรกิจที่เขาลงทุนจะอยู่ในด้านอาหารและเครื่องดื่ม เช่น Vita Coco, Pop Chips, และ Bai Brands โดยตัว Bai Brand นี้ โรฮานกล่าวว่าเป็นดีลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเขา โดยหลังจากที่เขาซื้อ Bai Brand มา เขาก็ได้ไปขายให้ Dr. Pepper ต่อด้วยมูลค่าธุรกิจกว่า 1.7 พันล้าน ซึ่งการปั้นแบรนด์ที่สำเร็จของเขาก็ล้วนมาจากสายตาที่เฉียบเหลียมในการหาพาร์ทเนอร์มาโปรโมทแบรนด์นี้แหละ โดยในดีลของ Bai Brand เขาก็ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ จัสติน ทิมเบอร์เลก นักร้องชื่อดังที่ทั้งโลกใครก็ต้องรู้จัก

ในปัจจุบันโรฮานก็ยังคงลงทุนในธุรกิจต่างๆและเป็นที่ปรึกษาผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรด์ชื่อดังมากมาย โดยเขามีสิ้นทรัพย์ถือครองสุทธิทั้งสิ้นประมาณ $200 ล้าน (6.2 พันล้านบาท) ซึ่งโรฮานได้ให้คำแนะนำสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มธุรกิจใหม่ 3 ข้อ

  1. ตามไอเดียเราไป >> หาไอเดียที่แท้จริงที่คนต้องการ ที่คนปกติไม่ค่อยรู้ด้วยตนเองหรอก หลังจากที่ได้ไอเดียนั้นแล้วก็ทำทำตามมันไป ซึ่งส่วนใหญ่หลายคนคิดไอเดีลเหล่านั้นได้นะ แต่จะมีส่วนน้อยที่จะตามไอเดียไปทำต่อ
  2. โฟกัสในเรื่องแพคเกจจิ้ง >> ตอนนี้แบรนด์ชื่อดังต่างก็มีแพคเกจจิ้งที่ทำออกมาแตะตาคน ดังนั้นเราต้องทำแพคเกจจิ้งให้สามารถดึงดูดได้มากกว่าระดับท๊อปๆ ยิ่งเป็นการขายให้เด็ก Gen Z ยิ่งสำคัญ
  3. ต้องมีแพสชั่น >> แพสชั่นในไอเดียเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ถ้าเรามีแพสชั่น ทุกคนจะตามเรา เราจะสามารถข้ามภูเขาในใจเราได้

สรุปส่งท้าย

เป็นยังไงบ้างครับเพื่อนๆ จากเด็กช่างอุตสาหกรรม กลายเป็นเบอร์หนึ่งด้านการตลาด สื่งที่ผมชอบของโรฮาน คือ การที่เขารู้จักตัวเอง และกล้าที่จะเปลี่ยน ลองคิดดูครับถ้าเขายังทำงานที่โรงงาน ชีวิตของเขาก็ไม่เกิด ซึ่งเพียงแค่เขาเปลี่ยนงานมาด้านสายการตลาดเท่านั้น ไปอยู่ที่ไหนก็บูมไปหมด Put the right man on the right job อยู่แค่ถูกที่ชีวิตก็เปลี่ยน เพื่อนก็ลองดูครับ ถ้าเราเจอสิ่งที่ใช่แล้ว ก็อย่ากลัวที่จะก้าวออกมาเพื่อเปลี่ยนชีวิตให้พบกับอนาคตที่สดใส ตอนนี้ก็ขอจบเพียงเท่านีครับ ขอบคุณครับ

--

--

Nut P
Nut P

Written by Nut P

มาคุยกันได้ครับ สนใจด้าน Tech & Business fb.com/inut.panpp

No responses yet