EP 15 : Chatfuel แพลตฟอร์มขั้นเทพ ที่ทำให้ใครๆก็สร้าง Chatbot ได้
ใครคิดว่าการสร้าง Chatbot ยาก ขอให้ยกมือขึ้น!!
.
เกินกว่า 90% ผมเชื่อว่าจะยกมือขึ้นครับ
แต่เดี๋ยวก่อน Chatbot สมัยนี้ไม่ได้พัฒนายากขนาดนั้น รู้ไหมครับว่า ปัจจุบัน เขามีเครื่องมือพัฒนา Chatbot ที่คนเขียนโปรแกรมไม่เป็นก็สามารถทำแชทบอทเหมือนมืออาชีพออกมาได้ง่ายๆ
นั้นคือ Chatfuel ครับ แพลตฟอร์มสร้าง Chatbot อันดับ 1 ของโลก ที่เกือบ 50% Chatbot ของ Facebook Messenger ใช้แพลตฟอร์มตัวนี้สร้าง
โดยเรื่องราว Chatfuel ผมจะขอเล่าแบ่งออกออกเป็นสองตอนนะครับ ซึ่งตอนแรกผมจะแนะนำให้เรารู้จักกันกับ Chatfuel เบื้องต้น และตอนต่อไปผมจะลงลึกขึ้นไปถึงประวัติก่อนที่ Chatfuel จะขึ้นมาเป็นอันดับ 1 นี้ อย่ารอช้า ติดตามได้กันเลยครับผม
“Chatfuel ของดี สร้างแชทบอทได้ ไม่ต้องง้อโปรแกรมเมอร์”
Chatfuel คือ แพลตฟอร์มในการช่วยสร้าง Chatbot ชนิดหนึ่ง ที่สามารถสร้าง Chatbot ได้ทั้งใน Facebook Messenger, Slack หรือ Telegram โดยตัวแพลตฟอร์มนี้มีข้อดี คือ ดีไซน์ออกมาใช้งานง่าย แม่ค้า นักเรียน คนเขียนโปรแกรมไม่เป็นก็สามารถใช้งานได้หมด พวกโค้ดโปรแกรมภาษาต่างดาวพอเจอแพลตฟอร์มนี้ก็ต้องหลีกไป
(เผื่อคนที่ยังไม่รู้ว่า Chatbot ว่าคืออะไรนะครับ ให้ลองนึกภาพง่ายเวลาๆเราพิมพ์ Line หรือ FB คุยกับใคร ถ้าเป็นแบบระบบตอบอัตโนมัติ ที่ไม่ใช่คนตอบ นี่คือ Chatbot ครับ)
สำหรับใครที่อยากลองใช้ Chatfuel สามารถกดได้ผ่านลิงค์ข้างนี้ได้เลย โดยตอนเริ่มต้นขอให้เพื่อนๆอย่างน้อยมี Facebook Page ที่อยากจะเชื่อมกับ Chatbot ครับ หลังจากนั้นคลิ้กๆ ลาก วาง นิดหน่อย ก็ได้แชทบอทไปใช้งานเรียบร้อย (แต่ปัจจุบัน ยังไม่รองรับ Line นะครับ เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้สร้างโดยคนรัสเซีย แล้วที่นู่นเขาไม่นิยมใช้ Line กัน)
งั้นไหนๆก็ไหนๆละ ผมขอแนะนำการเริ่มต้นใช้ Chatfuel ละกัน
หลังจากที่เข้าเว็บไซต์มาเริ่มแรกเขาจะให้เราเชื่อมกับ Facebook เราครับ ซึ่งเราก็กด Yes เพื่อให้อนุญาติให้ตัวแอปเชื่อมกับ FB เราได้ครับ
หลังจากที่เราเข้ามาที่หน้าแอปแล้ว มันจะขึ้นหน้าเปล่าๆ กับเครื่องมือเลข + (Blank Bot) ที่ใช้สำหรับสร้าง Chatbot ใหม่ ซึ่งถ้าใครยังไ่ม่มีไอเดียว่าจะสร้าง Chatbot แนวไหน ก็สามารถไปดูตัวอย่างสร้างแรงบันดาลใจในแถบพวก All Template หรืออื่นๆได้โลด
หลังจากเราสร้าง Chatbot เสร็จ มันจะให้เราเชื่อมกับ FB Page เรา เราก็เลือกเพจที่เราต้องการใช้ Chatbot แค่นี้เราก็เชื่อมกับตัว Chatfuel เรียบร้อยครับ
ทีนี้ก็เป็นขั้นตอนสร้าง Chatbot ครับ
ส่วนการสร้างหลักมันจะอยู่ที่แถบ Automate ครับ ซึ่ง Concept ของการสร้าง Chatbot นี้ก็ง่ายๆ คือ เขาจะใช้ Block ในการสร้างบทสนทนาของ Chatbot ครับ โดย 1 Block จะใส่บทสนทนาอะไรไปก็ได้ รูป ข้อความ การ์ด บลาๆ ยาวเป็น 10 หน้าก็ได้
ซึ่งแต่ละ Block นี้จะเชื่อมมาจากอีกปุ่ม Block ที่เราเซตไว้หรือมาจาก Keyword โดยยกตัวอย่างจากในรูป ตรงคำว่า Entry Point มันจะบอกว่า Block เชื่อมมาจากไหนบ้าง อย่างเคสนี้ก็เชื่อมมาจาก Keyword (AI Rule) เช่น คำว่า “สงสัยอะ” และเชื่อมมาจากปุ่มใน Block ที่ชื่อว่า Menu และตัวนี้ถ้ากดปุ่ม “เลือก” มันก็จะเชื่อมไปอีก Block ที่ชื่อ F1, F2 หรือ F3 ตามปุ่มในรูปด้านล่าง
เพื่อให้เห็นภาพ นี่ผมเล่นใน FB Messenger ให้ดู
สำหรับคนที่อยู่เซต Keyword ก็สามารถไปเซตได้ในแถบ Setup for AI ซึ่งถามว่าตัวภาษาไทยพอโอเครไหม ก็ถือว่าโอเครครับ แต่ด้วยที่ Chatfuel เป็นแพลตฟอร์มไม่ได้ทำเพื่อแนว NLP โดยเฉพาะ ดังนั้นจะมีฟีเจอร์ทำพวก Keyword หรือ AI Rule น้อยหน่อย
Chatfuel ยังมีการเก็บข้อมูลจากโหมด Live Chat กรณีที่คนปิดการคุยกับ Chatbot ด้วยครับ ซึ่งในกรณีนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราเซตข้อความใน Block ของ Default Message ครับ (ข้อความของ Chatbot ที่ตอบนอกเหนือจากที่เราเซตอะไรไว้) ซึ่งถ้าไม่อยากให้คนเปิดโหมด Live Chat เพื่อมาคุบกับเราก็แนะนำว่าไม่ต้องเซตตัว Message ครับ
นอกจากนี้ Chatfuel ยังมี Feature อื่นๆอีกมากมาย อย่างส่งข้อความ Broadcast ไปให้ทุกคนติดตาม, ดูพฤติกรรมกรรมคนที่แชท, ดูกราฟ Report ภาพรวม หรืออื่น
หลังจากสร้าง Chatbot เสร็จแล้วก็ลองไปพิมพ์เล่นใน FB Messenger ได้โลด!!
โอ้โห ดีไหมครับ ดีขนาดนี้สักกี่บาทดี บอกได้เลยว่า ฟรี!! ครับ นั้นเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับแพลตฟอร์มตัวนี้
โดยตัวเวอร์ชันฟรีจะมีการจำกัดคนติดตามอยู่ 5,000 Subscribers ซึ่งนับว่ามากโขในช่วงเริ่มต้น สำหรับใครที่ทำแบบมืออาชีพก็แนะนำให้ Upgrade เป็นแบบ Pro Plan ที่จะมีค่า Subscription รายเดือน $15 โดยสิ่งที่จะได้คือการที่มีคนติดตามได้ไม่จำกัด และพวกฟีเจอร์ใหม่ๆเพิ่มเติมอย่างเช่น พวกที่ช่วยเรื่องโฆษณาใน FB Ads ซึ่งนับว่ามีประโยชน์มากครับ
(อัพเดทเพิ่มเติมนะครับ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. 2020 ทาง Chatfuel ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายให้ทดลองใช้ฟรีเหลือเพียง 50 Subscribers เท่านั้น เป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก แต่เอาจริงถ้าเราใช้ ก็ไปอุดหนุนเขาก็ดีนะครับ เนื่องจากราคาไม่แพงมากและเขาจะได้ผลิตของดีๆออกมาให้เราใช้เยอะๆครับ)
สำหรับใครที่อยากได้วิธีการใช้ Chatfuel แบบละเอียด ผมแนะนำคลิปนี้ ซึ่งตัวในคลิปอาจเป็นเวอร์ชันเก่านะครับ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะตัวฟีเจอร์หลักมันไม่ต่างกับเวอร์ชันใหม่มาก
บางคนอาจจะสงสัยว่า แล้วอย่างนี้ตัว Chatfuel มันจะต่างอะไรกับพวกเครื่องมือปกติที่เขาใช้พัฒนา Chatbot อย่างพวก Dialogue Flow อย่างไร
ก็อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ครับคือความใช้งานง่ายที่ไม่สร้างขึ้นมาเพื่อสำหรับคนที่เขียนโปรแกรมไม่เป็น แต่ถามว่า Chatfuel ตัวนี้มีข้อเสียไหมครับ ก็ยังมื อย่างถ้าเราจะทำพวก NLP หรือปรับแต่ง Chatbot ไปเชื่อมกับระบบอื่นเยอะๆ Chatfuel ตัวนี้ทำไม่ได้ครับ ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับ Dialogue Flow ให้เห็นภาพง่ายๆ Chatfuel ก็เหมือนแพลตฟอร์มที่สร้างระบบด้านหน้าเพื่อให้สร้างแชทบอทง่ายๆ ส่วน Dialogue เหมือนเป็นระบบที่มีหลังบ้านสร้างแชทบอทครบครัน แต่ก็ต้องแลกกับความยากในการสร้างนี้ จึงสรุปได้ว่าแพลตฟอร์ม 2 ตัวนี้ก็มีจุดประสงค์การใช้สร้าง Chatbot แตกต่างกันครับ
ตัวอย่างองค์กรที่นำใช้ Chatfuel ไปใช้ครับ
ทีมบาสเกตบอส NBA GSW >> เพิ่มคนติดตาม FB Page ไปถึง 10 ล้านคน
Argomall อีคอมเมิร์ซชื่อดังของฟิลิปินส์ >> หลังจากใช้ Chatbot ยอดขายเพิ่มขึ้น 10%
Nissan ขายรถอิสราเอล >> เปิดตัวแชทบอทเดือนแรกขายรถได้ $380,000
สรุปส่งท้าย
เห็นไหมครับ Chatfuel ใช้ง่ายขนาดไหน ใช้ง่ายไม่พอ ยังราคาถูกอีก ต่อไปนี้เราคงต้องเปลี่ยนแนวคิดการสร้าง Chatbot ใหม่แล้วนะครับ :) ใครเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ ผมแนะนำเลยให้ใช้ตัวนี้เลยครับ ซึ่งตอนไหนผมว่างๆผมกะจะเขียนวิธีทำ Chatbot สำหรับแม่ค้าลงลึกเลยครับ ก็เชิญติดตามกันได้ครับ แล้วตอนต่อไปหลังจากที่เรารู้จักศักยภาพของ Chatfuel คราวนี้เราก็จะมาการเดินทางในอดีตของมันบ้างครับ ใครพร้อมแล้วก็เชิญติดตามตอนต่อไปได้ในลิงค์นี้ครับผม
https://medium.com/@terrynut/e19f221f075e
